การกระตุ้นทารกในครรภ์
คำถาม
ได้ติดตามอ่านคำตอบและคำแนะนำของคุณหมอในคอลัมน์นี้มาโดยตลอดชอบมากค่ะ ถึงตอนนี้ดิฉันตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนแล้วและพยายามดูแลสุขภาพครรภ์ของตัวเองเป็นอย่างดี วันนี้ดิฉันมีข้อสงสัยใคร่จะขอให้คุณหมออธิบายดังนี้ค่ะ
1. ดิฉันเคยได้รับคำแนะนำว่า การกระตุ้นลูกตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ (ประมาณเดือนที่ 6) โดยการใช้ไฟฉายส่องที่ท้องเพื่อให้ลูกมีพัฒนาการทางด้านสายตาที่ดีเป็นความเข้าใจที่ถูกต้องหรือไม่ และควรทำหรือไม่คะ
2.การคุยกับลูกและเปิดเพลงให้ลูกฟัง ควรจะทำในช่วงเวลาไหนของวันจึงจะเหมาะสมที่สุด และตามอายุครรภ์ของดิฉัน จะเริ่มทำได้หรือยังคะ
ปริมาณแคลเซียมที่ควรได้รับแต่ละวัน
3.เราทราบได้อย่างไรคะว่า ปริมาณแคลเซียมที่กินเข้าไปในแต่ละวันนั้นเพียงพอหรือยัง เช่น ดื่มนมวันละ 2 แก้วแล้วควรจะกินแคลเซียมในรูปเม็ดอีกหรือไม่คะ
คำตอบ
1.ปกติทารกจะเริ่มลืมตามองเห็นสิ่งต่างๆ รอบตัวเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน ในช่วงใกล้ๆ คลอดมดลูกจะขยายตัวขึ้นเร็วมาก ทำให้ผนังมดลูกบางจนแสงสว่างส่องผ่านเข้าไปในโพรงมดลูกได้ การที่จะกระตุ้นการมองเห็นของทารกจึงควรทำหลังจากอายุครรภ์ได้ 7 เดือนแล้ว มีผู้แนะนำให้ใช้ไฟฉายส่องที่ท้องเพื่อให้แสงสว่างผ่านเข้าไปในโพรงมดลูก ทำให้ทารกมองเห็นได้ดีขึ้น เป็นการกระตุ้นพัฒนาการของสมองด้านการมองเห็นให้ดีขึ้น
แต่ผมว่าคงไม่ต้องไปลำบากหาไฟฉายมาส่องหรอกครับ เพราะแสงสว่างน้อยมาก สู้แสงสว่างจากดวงอาทิตย์ไม่ได้ครับ ถ้าคุณแม่นุ้ยต้องการให้แสงสว่างผ่านเข้าไปในโพรงมดลูกก็ทำได้ง่ายมาก โดยการสวมเสื้อผ้าที่ไม่หนาจนเกินไป เลือกเสื้อผ้าที่มีเนื้อผ้าค่อนข้างโปร่ง แล้วออกไปเดินเล่นพักผ่อนในบริเวณที่มีแสงแดดจ้า แค่นี้ลูกก็สามารถมองเห็นรอบๆ ผนังมดลูกแล้วครับ นอกจากนี้คุณก็ยังได้ออกกำลังกายเบาๆ และได้อากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น ไปในตัวด้วย
2.ทารกจะเริ่มได้ยินเมื่ออายุครรภ์ประมาณ 22 สัปดาห์ ดังนั้นจึงควรกระตุ้นระบบการได้ยินของลูกหลังจากอายุครรภ์ได้ 5 เดือนไปแล้ว เวลาที่เหมาะสมในการกระตุ้นควรเป็นเวลาหลังอาหารเย็นประมาณ 1 ชั่วโมงซึ่งอาหารได้ถูกย่อยไปแล้วและร่างกายเริ่มดูดซึมสารอาหารและน้ำตาลกลูโคสเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้ทารกได้รับสารอาหารไปด้วย ทารกจะกระปรี้กระเปร่าและตอบสนองการได้ยินได้ดี ขณะพูดคุยกับลูกควรสังเกตด้วยว่าลูกกำลังตื่นอยู่โดยมีการดิ้นอย่างสม่ำเสมอ ขณะนี้คุณแม่นุ้ยตั้งครรภ์ได้ 5 เดือนสามารถเริ่มการกระตุ้นได้เลยครับ
3.ถ้าต้องการทราบอย่างแน่นอนว่าได้รับแคลเซียมเพียงพอหรือไม่ ก็สามารถทำได้โดยการเจาะเลือดตรวจดูระดับแคลเซียมว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติหรือไม่ แต่ในทางปฏิบัติไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเจาะเลือดตรวจ เพราะแพทย์สามารถดูจากอาการแสดงออกของคุณแม่ได้ว่าขาดแคลเซียมหรือไม่ เช่น อาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ หรืออาการตะคริวที่เกิดขึ้นบ่อยๆ อาจแสดงถึงการหมุนเวียนของโลหิตที่ไม่พอเพียงร่วมกับการขาดแคลเซียม ในระหว่างการตั้งครรภ์ควรที่จะได้รับแคลเซียมตลอดการตั้งครรภ์ โดยการดื่มนมวันละ 2 - 3 แก้ว นอกจากนี้ผักใบเขียวทุกชนิดและปลาเล็กปลาน้อยที่กินพร้อมกระดูกหรือก้างก็ล้วนแต่อุดมไปด้วยแคลเซียมทั้งนั้น คุณแม่นุ้ยดื่มนมวันละ 2 แก้ว ก็คงได้รับแคลเซียมพอเพียงแล้ว แต่ถ้าจะกินแคลเซียมชนิดเม็ดเสริมด้วยก็ยิ่งดีใหญ่ครับ
แม่นุ้ย-สมุทรปราการ ถาม
นพ.วิชัย ชวาลไพบูลย์ ตอบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น