วันพฤหัสบดีที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2555

แม่ซีด ลูกซีดด้วยไหม

คำถามดิฉันเคยตั้งครรภ์เมื่ออายุ 28 ตรวจเลือดหมอว่า 34 % พอใกล้คลอดตรวจ 32 % หมอบอกว่าซีด ทั้งๆ ที่ดิฉันทานอาหาร 5 หมู่ทุกวัน ผัก ผลไม้ นม 6 แก้ว/วัน ไข่วันละ 1 ฟอง กินยาบำรุงหมอ 3 เวลา แล้วทำไมเลือดจาง ดิฉันคลอดลูกมาน้ำหนัก 3,220 กรัม น้ำหนักดิฉัน 43 กก. พอท้องจะคลอดหนัก 61.5 กก. เพิ่ม 18.5 กก. อ้วนมาก เดือนที่ 9 ดิฉันลาพักคลอดเพราะดิฉันบวมตามมือเท้า ดิฉันทานแต่ผักต้ม ลดนมวันละ 1 แก้วเท่านั้น แต่พอคลอดมาแล้วอายุลูกได้ 4 เดือนเป็นลำไส้อักเสบ เพราะเขาท้องเสียและทานยาแก้ท้องเสียมากเกินไป หมอตรวจเลือดพบว่า ลูกซีดมากเลือดจาง
อยากถามคุณหมอว่า ติดแม่หรือเปล่าคะ เพราะอะไรทั้งๆ ที่แม่บำรุงในตอนท้องแล้ว และคุณหมอนัดให้ไปตรวจเลือดอีกครั้งตอน 1 ขวบ ดิฉันควรนำลูกไปหรือไม่คะ และตอนนี้จะช่วยลูกอย่างไร
ขณะนี้ลูกอายุ 1 ขวบแล้ว แต่ลูกยังไม่ได้กินอาหารเสริมเลยค่ะ เขากลืนไม่เป็นกินอะไรก็คายหมดเลย กินแต่นมขวดอย่างเดียว พอป้อนอาหารกินแค่ 2-3 คำ เพราะอะไรคะ

คำตอบตามปกติถ้าระดับเลือด (เฮมาโตคริต ต่ำกว่า 30% จะถือว่าซีด ในกรณีของคุณได้ 34% ยังไม่นับว่าผิดปกติ คือตามปกติระหว่างตั้งครรภ์มานั้น โลหิตจะเจือจางขึ้นเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเม็ดเลือดแดงจะเพิ่มน้อยกว่าน้ำเลือด (พลาสมา) ทำให้ดูเหมือนว่าเลือดจะจางลงอย่างเช่นคุณเมื่อแรกๆ ระดับเลือดได้ 34% เมื่อครรภ์แก่ขึ้นเป็น 32% แต่ก็นับว่าอยู่ในเกณฑ์ต่ำของคนปกติ ควรจะได้รับยาบำรุงเลือดเพิ่มเติม
ส่วนว่าเป็นโรคเลือดหรือไม่คงจะต้องให้แพทย์ตรวจเลือดให้ละเอียดขึ้น ซึ่งก็สามารถบอกได้ว่าคุณจะเป็นโรคเลือดชนิดไหนหรือไม่มีโรคเลือด
ส่วนเรื่องอาหารและยาบำรุงคุณกล่าวมาก็นับว่าดีแล้ว น้ำหนักลูกที่ออกมาก็อยู่ในเกณฑ์ปกติทั้งๆ ที่น้ำหนักของคุณเพียง 43 กก. เท่านั้น และน้ำหนักของคุณที่เพิ่ม 18.5 กก. ก็นับว่ามากไปหน่อย อาจจะเนื่องจากการบวมของคุณ
ส่วนลูกอายุ 4 เดือนเป็นโรคลำไส้อักเสบ ท้องเสียบ่อย ทานไม่ค่อยได้หรือทานน้อยอาจเป็นสาเหตุของโรคโลหิตจางก็ได้ ซึ่งอาจไม่ใช่โรคเลือด ถ้าอยากทราบว่าเป็นโรคโลหิตจางจริงๆ ต้องตรวจโลหิตให้ละเอียด โดยเฉพาะกับแพทย์เฉพาะทางโลหิตวิทยาก็บอกได้แน่นอนเลย แต่จากที่คุณบอกมานี้ผมคิดว่าไม่น่าจะเป็นโรคเลือด คิดว่าโลหิตจางจากท้องเสียรับประทานไม่ได้มากเท่าที่ควร
แพทย์นัดไปตรวจอีกครั้งเมื่อครบ 1 ปีนั้นก็ควรจะนำลูกไปตรวจตามแพทย์นัดและคิดว่าขณะนี้ลูกของคุณคงไม่น่าเป็นอะไรมาก แพทย์จึงนัดนานขนาดนั้น
ส่วนเรื่องจะช่วยลูกอย่างไรนั้นคิดว่าน่าจะปรึกษากุมากแพทย์ว่าลูกมีโรคอะไรจริงๆ หรือไม่ และถ้าลูกยังมีอาการของท้องเสียบ่อยๆ ก็น่าจะรักษาให้หายและปรึกษาเรื่องอาหารการกิน รวมทั้งอาหารเสริม เรื่องกลืนไม่เป็นคงต้องค่อยๆ ให้ทีละน้อยๆ ใจเย็นๆ ให้เด็กค่อยๆ ปรับตัว เพราะบางครั้งไม่ได้ฝึกให้ตั้งแต่เล็ก มาฝึกตอนหลายเดือนหรือหนึ่งปีแล้ว เด็กก็ไม่เคยชินมาก่อน ย่อมไม่ชอบแน่นอน
สุดท้ายนี้ขอให้คุณอดทนต่อไปแล้วความสมหวังก็จะตามมาแน่นอน

แม่น้องเยียร์-ถาม / ศ(คลินิก)นพ.จิรศักดิ์ มนัสสากร-ตอบ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น