คุยเรื่องลูกกับหมอชนิกา-ให้ลูกมีสุขภาพดีด้วยตัวเอง
การเลี้ยงดูลูกนอกจากให้ร่างกายแข็งแรง โภชนาการสมวัย สดใส ทั้งไอคิวและอีคิว สำคัญคือ สร้างสุขนิสัยความสะอาดด้วย ไม่ต้องถึงกับเป็นคุณหญิงสะอาด ต้มแบงก์ต้มเหรียญละค่ะ เพียงแต่สอนให้เด็กรักความสะอาดและปฏิบัติจนเป็นความเคยชิน ตัวอย่างง่ายๆ คือ การอาบน้ำชำระร่างกาย รวมการดูแลสุขภาพฟันให้เหมาะสมตามวัย แปรงฟันอย่างน้อยเช้าและก่อนนอน หลังอาหารถ้าบ้วนปากเป็นก็สอนให้บ้วนปาก ไม่ให้คุ้นเคยกับสภาพมีเศษอาหารค้างในปากเป็นบ่อเกิดเชื้อโรค กลิ่นปาก และฟันผุตามมา ถ้าเขาคุ้นเคยกับปากสะอาด เขาจะรำคาญถ้ามีเศษอาหารค้างอยู่จะต้องทำความสะอาดเอง ก่อนรับประทานอาหารให้ล้างมือก่อน เพราะเด็กๆ จะซุกซน เล่นดิน เล่นทราย หรือลูกไล้ตามขั้นบันได ประตู ถนน สนาม แม้แต่สัตว์เลี้ยง ถ้าทำเป็นนิสัยเขาจะทำเองโดยไม่ต้องบอกเป็นการป้องกันเชื้อโรคไปได้ขั้นตอนหนึ่ง
เชื้อโรคในโลกนี้ช่างมีมากมาย ถ้าเทียบกับสัตว์โลกทุกชนิดในโลกนี้ด้วยจำนวนจะแพ้พวกจุลชีพหรือเชื้อโรค เพราะมีชนิดใหม่ๆ มาให้เรารู้จักและสะพรึงกลัวเสมอมา เช่น เชื้อโรคเอดส์ เพิ่งจะรู้จักไม่นานแต่แพร่หลายและฆ่าคนตายมากมาย เชื้อโรควัวบ้า ฯลฯ เชื้อโรคมีหลายประเภทที่ติดต่อง่ายๆ จากการไอจามรดกัน ในเด็กมีทั้งเชื้อแบคทีเรียและไวรัส ดังนั้น ควรสอนลูกให้เอามือปิดปาก หรือหันหน้าไปทางอื่นเวลาไอหรือจาม ใช้กระดาษทิชชูสั่งน้ำมูกและทิ้งลงถังขยะ ให้ฟอกมือสะอาดด้วย เพราะน้ำมูกอาจเลอะเทอะมือไปจับต้องผู้อื่นหรืออาหาร
การสอนลูกให้รู้จักฟอกมือด้วยสบู่ ฟอกให้สะอาดทั้งสองด้าน ถูในระหว่างนิ้วและปลายนิ้วส่วนเล็บด้วย สอนให้ทำทุกครั้งหลังจากเข้าห้องสุขาออกมา หรือหลังถ่ายอุจจาระ สมาชิกแต่ละคนในครอบครัวมีผ้าเช็ดตัวประจำคนละผืน พ่อแม่ผืนโต ลูกผืนเล็กหน่อยพอได้สัดส่วนกับร่างกาย ถ้าสมาชิกคนใดเกิดโรคท้องร่วง ท้องเสีย เป็นบิดละก็ทุกคนต้องระวังเป็นพิเศษ เพราะเชื้อโรคออกทางอุจจาระซึ่งอาจจะเข้าทางปากคนใดคนหนึ่งในบ้านได้ การฟอกมือให้สะอาด ที่นั่งโถส้วมแป้นกดชักโครก ก็อกน้ำ กลอนประตูห้องน้ำ ล้วนแต่เป็นจุดที่จะแพร่เชื้อโรคได้ แม้แต่สบู่ก้อนที่ใช้นานๆ แช่น้ำก็อาจมีเชื้อโรคได้ การใช้สบู่เหลวอาจมีข้อได้เปรียบ แต่ก็ไม่แน่ใจ เพราะน่าจะวิเคราห์ดูว่าสบู่เหลวบางชนิดอาจจะไม่สะอาดจริงก็ได้ค่ะ ถ้าสมาชิกในบ้านลงท้องจู๊ดๆ อย่างแรง และบ้านก็อัตคัดห้องน้ำ ประเภท 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ อย่างนี้ต้องระวังความสะอาด เช่น เอาน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดตรงบริเวณที่อาจแพร่ เช่น แป้นนั่ง โถส้วม ที่กดส้วมชักโครก เป็นต้น อย่าว่าเป็นคุณนายแสนสะอาดเลย เพราะถ้าลูกตัวจิ๋วหลิวลงท้องแบบอหิวาต์ละก็ไม่สนุกเลยค่ะ อาการหนักทีเดียวแหละ
เด็กๆ ร้อนเก่ง ต้องอาบน้ำอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ถ้าเมืองนอกเขาว่าครั้งเดียวพอ พอเด็กเริ่มซุกซนนอกบ้านเหงื่อไคลมาก เริ่มวิ่งเก่งจะยิ่งซนมาก เด็กๆ ชอบอาบน้ำฝักบัวไม่รวยก็อาบได้ ติดฝักบัวแล้วลูกจะติดใจ เพราะเขาอยากเล่นน้ำฝนเมื่อไร ก็ได้อาบจากฝักบัวนี่แหละ ผู้ใหญ่ต้องอยู่ด้วยเพื่อความปลอดภัย ไม่ว่าจะอาบน้ำอุ่นหรือน้ำเย็นก็ต้องมีผู้ใหญ่อยู่ด้วยค่ะ
สุขนิสัยการกินเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง ซื้อของสะอาดของปรุงใหม่ไม่ค้าง ต้องใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าในการซื้อของให้ลูก ทั้งดูทั้งดมเลย อย่าขี้เหนียวกลัวเสียของเสียดายเงิน คิดว่าคงไม่เป็นอะไรถ้าจะกินนมที่หมดอายุแค่วันเดียว เครื่องกระป๋องที่ปูดหรือบูดเบี้ยว ไข่ที่แตก ขนมใส่กะทิที่ส่วนหน้ามีลักษณะผิดปกติ อาจเริ่มบูดหรือมีเชื้อราลงกิน เมื่อคุณแม่จะทำกับข้าวก็ต้องล้างมือให้สะอาด ถ้าคุณแม่ทิ้งขยะสกปรกแล้วก็ต้องฟอกมือทุกครั้ง ถ้าคุณแม่มีแผลหรือเป็นหนองต้องปิดพลาสเตอร์ และระวังในการปรุงอาหาร เพราะเชื้อหนองลงอาหารเด็กเกิดอาหารเป็นพิษ ควรงดใช้มือข้างนั้นปรุงอาหาร สวมถุงมือเสียและรีบรักษาค่ะ
ผักผลไม้ล้างให้สะอาด แช่น้ำด่างทับทิมและล้างน้ำอีกครั้ง หรือใช้น้ำยาล้างผักก็ต้องล้างอีกครั้ง ลูกเล็กไม่ควรให้กินไข่ลวกค่ะ ควรกินไข่ต้มสุกทั้งไข่ขาวและไข่แดง นมที่กินไม่หมดอย่าเก็บในตู้เย็นนาน เพราะคุณเองก็จะลืมไปชงขวดใหม่ พบขวดเก่าก็เอามาให้กินอาจท้องร่วงได้
อาหารที่จะอุ่นให้ร้อนก็ดูให้ร้อนถ้วนทั่ว โดยเฉพาะอาหารออกจากตู้แช่แข็งหรือตู้เย็นนำเข้าไมโครเวฟ บางครั้งข้างนอกร้อนอุ่นข้างในเย็นไม่เหมาะค่ะ ควรเอามาไว้ข้างนอกสักพักให้ละลายจากช่องแข็ฌง และจึงเข้าไมโครเวฟเพื่อร้อนทั่วถึง ถ้าเป็นอาหารกระป๋องต้องดูวันหมดอายุก่อน เช็ดฝากระป๋องให้สะอาด เปิดกินแล้วส่วนที่เหลืออย่าค้างในกระป๋อง ต้องถ่ายใส่ภาชนะแก้วหรือกล่องสะอาดเข้าตู้เย็น ล้างเครื่องเปิดกระป๋องทุกครั้ง
บ้านเราอาหารการกินอุดมสมบูรณ์ไม่ต้องพึ่งพาอาหารขวด อาหารกระป๋อง คุณแม่ทำกับข้าวและปรุงเสร็จล้างเก็บเข้าที่ให้เรียบร้อย เก็บเศษขยะออกนอกครัว อย่าให้มีเศษอาหารติดตามเขียง ตามเตา ตามโต๊ะ เก้าอี้ เพราะเมื่อความมืดมาเยือนจะมีแขกสกปรกไม่รับเชิญ ได้แก่ แมลงสาบ จิ้งจก หนู มากินไม่พอถ่ายรดบ้าง ทิ้งความสกปรกนำโรคท้องเสียบ้าง ตับอักเสบบ้าง ต้องให้ครัวสะอาดด้วยค่ะ
*********************************************************
ขอขอบคุณ ข้อมูลดีดีจาก วารสารรักลูก ฉบับที่ 227
ศ.พญ.ชนิกา ตู้จินดา
อดีตคณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
*********************************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น