วันพุธที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2555

ไขข้อข้องใจเป็นต้อหิน หายหรือบอด

นพ.พรเทพ พงศ์ทวิกร
ศูนย์จักษุและต้อกร:จก รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน)

ตอนที่แล้วได้พูดถึงต้อหินไว้บางส่วนครับ ก็มีบางท่านโทรมาถามทันทีว่าเป็นต้อหินรักษาหายหรือเปล่า ตาจะบอดไหม วันนี้เราจะคุยกันครับ แม้ว่าความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับต้อหินจะก้าวหน้าไปมาก มีงานวิจัยเกี่ยวกับต้อหินแต่ละปีเป็นร้อยเรื่องแต่ความรู้ในปัจจุบันก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่า กลไกการทำลายเส้นประสาทตาในต้อหินเกิดขึ้นได้อย่างไร หรือกล่าวง่ายๆ ว่า สาเหตุต้อหินยังคงเป็นเรื่องลึกลับอยู่

ถ้าเช่นนั้น ในขณะที่เรายังไม่ทราบกลไกการเกิด ต้อหิน แล้วเราจะยับยั้ง หรือหยุดต้อหินได้อย่างไร แม้ว่าเราจะหยุดมันไม่ได้แต่ความรู้ปัจจุบันพบว่าเราสามารถชะลอมันได้ครับ

งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ถ้าเราสามารถควบคุมความดันตาไปอยู่ที่จุดที่เหมาะสมของแต่ละคน จะช่วยลดการทำลายจากต้อหินลงได้ครับ นอกจากนี้การช่วยให้เลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตาได้มากขึ้น ก็มีส่วนช่วยลดการทำลาย จากต้อหินเช่นกัน

ปัจจุบันการรักษาต้อหินจึงมุ่งเน้นไปในการลดความดันตาและส่งเสริมให้มีเลือดไปเลี้ยงขั้วประสาทตาเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันมีการรักษาต้อหินอยู่ 4 วิธีครับ

- วิธีแรก คือการใช้ยาลดความดันตา หรือบางคนเรียก ยาต้อหิน
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นยาหยอดครับ ยาชนิดนี้มีหลายชนิด มีความปลอดภัยสูง และประสิทธิภาพดี โดยเฉพาะยาหยอดสามารถใช้ระยะยาวๆ ได้

- วิธีที่สอง คือการใช้เลเซอร์ เป็นวิธีที่คนไข้นิยมถามครับว่าจะยิงเลเซอร์ได้ไหม เห็นว่ายิงแล้วหาย ?
แต่ในความเป็นจริงคือ การยิงเลเซอร์จะใช้ยิงม่านตาให้เป็นรู ในรายที่เป็นต้อหินชนิดมุมปิด หรือยิงกระตุ้นมุมตาในรายต้อหินชนิดมุมเปิดบางชนิดครับ แม้การยิงเลเซอร์อาจช่วยลดความดันตาได้บางส่วน แต่งานวิจัยหลายชิ้นพบว่า ยังมีการทำลายของต้อหินอยู่ ดังนั้น อย่านิ่งนอนใจ แม้ว่ายิงเลเซอร์แล้วก็ควรไปพบจักษุแพทย์เป็นระยะด้วย

- วิธีที่สาม คือการผ่าตัด
เป็นวิธีการระบายนํ้าในลูกตาออกสู่ใต้เยื่อบุตา เป็นวิธีการที่ใช้ลดความดันตาได้แรง แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าวิธีอื่น เช่น การติดเชื้อ เลือดออกใต้จอตา ปัจจุบันวิธีนี้แพทย์จะนิยมใช้ในราย ที่ใช้วิธีอื่นคุมความดันตาไม่ได้ผลครับ การผ่าตัดเป็นเพียงการลดความดันตาวิธีหนึ่งซึ่งช่วยชะลอการทำลายของต้อหิน ไม่ได้ช่วยให้ประสาทตากลับฟื้นคืนใหม่ได้
ดังนั้นการผ่าดัดต้อหินจืงไม่ได้ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น

- วิธีสุดท้าย การใช้ยาที่จะช่วยเพิ่มเลือดไปเลี้ยงที่ขั้วประสาทตา
ที่นิยมคือ ยาที่สกัดจากใบแปะก๊วย พบว่าช่วยให้มีเลือดไหลเวียนไปที่ขั้วประสาทตามากขึ้นครับ
การเลือกวิธีใดขึ้นกับข้อมูลที่จักษุแพทย์ต้องพิจารณา เช่น เป็นต้อหิน ชนิดไหน ความดันตาสูงมากแค่ไหน ขั้วประสาทตาโดนทำลายไปมากเท่าไร ลานสายตาเป็นเช่นไร ในบางราย แพทย์อาจเลือกวิธีเดียวหรือหลายวิธีผสมกันครับ คนที่เป็นต้อหินตอนนี้อยู่คงสงสัยว่าความดันตาที่เหมาะสมมันต้องเท่าไร ถ้าตอนนี้ความดันตา 15 มิลลิเมตรปรอท มันโอไหม? ความดันตาที่เหมาะสม แต่ละคนไม่เท่ากันครับ บางราย 15 ก็โอเคแล้ว แต่ บางรายต้องตํ่ากว่านั้น แพทย์จะใช้การเปลี่ยนแปลงของขั้วประสาทตาและลานสายตา ในการติดตาม และประเมินผู้ป่วย ถ้าขั้วประสาทตาและลานสายตา ไม่เปลี่ยนแปลงอาจสรุปได้คร่าวๆ ว่า ความดันตา นั้นโอเค แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงแพทย์อาจจำเป็น ต้องปรับยาและเปลี่ยนวิธีการครับ

รู้อย่างนี้แล้ว ซื้อยามาหยอดเองไม่ได้นะครับ ต้องพบจักษุแพทย์เพื่อประเมินและปรับวิธีการรักษาครับ
สุดท้ายนี้ คงมีคนสงสัยว่าการนวดตาที่กำลังฮิต จะช่วยรักษาต้อหินได้ไหม ขอตอบอย่างนี้ครับ การนวดตาหรือกดไปบนลูกตาจะเพิ่มแรงดันลูกตาในขณะกด ซึ่งน่าจะเป็นผลเสียต่อเส้นประสาทตามากกว่า นอกจากนี้ยังไม่มีผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ใด ๆ ที่ยืนยันว่าการนวดดังกล่าวจะรักษาต้อหินได้ครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น