วันอังคารที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2557

พัฒนาการเด็ก 3-6 ปี โตแล้วจ้า...สงครามหน้าตู้ (เสื้อผ้า)

พัฒนาการเด็ก 3-6 ปี โตแล้วจ้า...สงครามหน้าตู้ (เสื้อผ้า)

ปกติเจ้าตัวเล็กวัย 5-6 ขวบ จะให้ความร่วมมือในหลาย ๆ เรื่อง
แต่พอถึงเรื่องแต่งตัว เอาละว่า... เล่นแง่ซะอย่างนั้น
จริง ๆ แล้วจากการศึกษาของนักจิตวิทยา พบว่า
เรื่องแต่งตัวเป็นข้อขัดแย้งข้อใหญ่ระหว่างแม่กับลูกเล็กวัยนี้เลยทีเดียวค่ะ
เจ้าหนูบางคนถึงกับหัวฟัดหัวเหวี่ยง
ในขณะที่บางคนหยิบเสื้อผ้ามากี่ตัวกี่ตัวถูกโยนลงไปกองกับพื้น
ไม่ยอมแต่งตัวเอาดื้อ ๆ สุดท้ายก็ยืนขาตายทั้งที่เราพยายามพาไปโรงเรียนให้ทัน
ฮึ่ม...ทำไมถึงเป็นอย่างนี้นะจะว่าเพราะแฟชั่นก็ไม่น่าจะใช่
ก็ดูเสื้อผ้าแต่ละตัวที่เจ้าตัวเล็กเลือกใส่สิ ไม่อยากจะเซด แล้วเพราะอะไรล่ะ

==>>  ชนวนสงคราม
อย่างที่บอกแหละค่ะ จริง ๆ แล้วไม่ว่าเสื้อ กางเกง กระโปรง
หรือเครื่องแต่งตัวชิ้นไหน ๆ ก็ไม่ใช่ชนวนของเรื่องวุ่นวายคราวนี้โดยตรง
ต้นเรื่องตัวสำคัญก็คือความต้องการที่จะรักษาอำนาจอธิปไตยของเจ้าตัวเล็กต่างหาก

****    ก็สิทธิ์ของหนู
เด็กอนุบาลกำลังอยู่ในช่วงพัฒนาความเป็นตัวของตัวเองให้แข็งแกร่งขึ้นค่ะ
และการเลือกว่าจะใส่เสื้อผ้าชุดไหนก็เป็นเรื่องหนึ่งที่เด็กตัวเปี๊ยกคิดว่า
น่าจะตัดสินใจเองได้ ทั้งง่ายและรู้สึกปลอดภัยด้วย
คำฮิตติดปากที่ใช้แสดงสิทธิ์ของตัวเองก็ประมาณว่า
"นี่ตัวหนูนะ"
"หนูจะเลือกเอง" หรือไม่ก็
"หนูจะใส่ตัวนี้"
สมเป็นลูกหลานชาวประชาธิปไตยจริง ๆ

****    ชุดเก่งเขาล่ะ
การตัดสินใจของเจ้าตัวเล็กไมได้เป็นไปแบบส่ง ๆ นะคะ
หลักการก็คือ ขอให้ใส่แล้วสบ๊าย...สบายตัว
ประเภทผิวเรียบ อ่อนนุ่ม ไม่รัดแน่นจนอึดอัด
หรือมีขอ กระดุม ซิป หรือตะเข็บปูดโปนให้เป็นที่รำคาญ
ถ้าได้อย่างนี้ละก็ มอมแค่ไหนไม่มีเกี่ยง

บางครั้งเสื้อผ้าบางชุดก็สะท้อนถึงความต้องการทางอารมณ์ของเจ้าหนูได้เหมือนกัน
สังเกตสิคะเด็ก ๆ ที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ค่อยมีอำนาจ
มีแนวโน้มจะเลือกเสื้อผ้าที่ทำให้ตัวเองดูแข็งแกร่ง
เช่น เสื้อยืดลายไดโนเสาร์ ฉลาม หรือฮีโร่ประจำใจ
และเมื่อแกรู้สึกเชื่อมั่นขึ้น การแต่งองค์ทรงเครื่องก็จะเริ่มหลากหลายขึ้นเองค่ะ

****    แฟชั่นส่วนตั๊ว...ส่วนตัว
แต่งตัวเพียงเพราะตามอย่างเพื่อนเหรอคะ ยากค่ะ
วัยนี้เขาครีเอทยังกับอะไรดี ทดลองจากชุดที่แกเชื่อว่าจ๊าบสุด ๆ ก่อนนี่แหละ
ซึ่งนับเป็นเรื่องดี ถ้าคุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้แสดงความคิด
สร้างสรรค์ในรูปแบบนี้ได้ ถึงจะไม่ค่อยชอบแฟชั่นของแกเท่าไหร่ก็เถอะ
จนใกล้ 6 ขวบนั่นแหละค่ะ ถึงเริ่มมีแฟชั่น แต่งตัวตามเพื่อนบ้าง

==>>  สงบศึก
เพื่อให้เจ้าหนูได้สร้างสรรค์ดี มีความเป็นไทชนิดสบายใจเราพ่อแม่ด้วย
ลองใช้มาตรการหวานกลบเปรี้ยวต่อไปนี้ดูค่ะ

****    ขอความเห็น
การให้เจ้าตัวเล็กได้เลือกใส่เสื้อผ้าจากที่เราเสนอให้สัก 3-4 ชุด
ก็เท่ากับแกได้รับผิดชอบตัวเองแล้ว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวที่ต่างกับที่แม่ชอบสุด ๆ นั่นแหละ
จะทำให้เจ้าหนูรู้สึกเหมือนเด็กโตคนหนึ่งเลย
ยิ่งถ้าปล่อยให้ได้เลือกเองตามลำพัง
จะยิ่งทำให้แกรู้สึกว่าได้ควบคุมอะไรเองมากขึ้น
จึงควรจัดเก็บเสื้อผ้าเจ้าตัวเล็กในที่ที่แกหยิบถึงให้เป็นหมวดหมู่ เผื่อแกจะหยิบใช้เองไงคะ

****    มีข้อตกลง
สัก 5-6 ขวบ เจ้าหนูก็พร้อมจะทำตามข้อตกลงได้แล้ว
เช่น ถ้าขอซื้อเสื้อตัวไหน ก็ต้องใส่ชุดนั้นด้วย ไม่อย่างนั้นจะขอซื้อไม่ได้อีก
หรืออนุญาตให้ใส่ชุดโปรดได้ แต่มีข้อแม้ว่าต้องสะอาดเท่านั้น
หรืออาทิตย์หนึ่งให้ใส่เสื้อตัวโปรดได้กี่ครั้ง อย่าลืมนะคะว่าต้องตกลงกันก่อน

****    จัดล่วงหน้า
เพื่อให้เช้าวันรุ่งขึ้นเป็นเช้าอันปลอดโปร่งของทั้งคุณและลูก
ก็ให้แกเลือกเสื้อผ้าที่อยากใส่ไว้ก่อนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำ
โดยอธิบายให้เจ้าตัวเล็กฟังว่าถ้าเตรียมตัวล่วงหน้า แม่ก็ไม่ต้องรีบ
ตัวแกเองก็มีเวลาเล่นตอนเช้ามากขึ้น แล้วก็ตื่นเช้าอีกนิด
จะได้ไม่ต้องหงุดหงิดว่าจะไปสายไงคะ

****    สร้างบรรยากาศผ่อนคลาย
สำหรับน้องอนุบาลรุ่นเล็กที่อยู่ไม่นิ่งเวลาแต่งตัว นิทานสนุก ๆ สักเรื่อง
จะช่วยรั้งแกให้อยู่กับที่ได้จนกว่าคุณจะแต่งตัวให้แกเสร็จค่ะ
และเก้าอี้สูงสำหรับเด็กก็ช่วยไม่ให้แกวิ่งหนีไปไหนซะก่อนที่จะสวมถุงเท้า รองเท้าเสร็จด้วย

****    เลือกที่ใส่ง่าย
หนูอนุบาลปลายพอจะแต่งตัวเองได้แล้ว
เสื้อผ้าที่เลือกซื้อก็น่าจะถอดง่าย ใส่สะดวก
เช่น รองเท้าที่ติดด้วยแถบเวลโคร
หรือชุดที่มีเครื่องติดยึดแบบง่าย ๆ แทนพวกที่ต้องร้อยเชือก หรือมีตะขอ
วิธีทำเครื่องหมายในรองเท้าข้างหนึ่งไว้ก็ช่วยกันไม่ให้เจ้าตัวเล็กใส่สลับคู่ได้

****    วางแผนกันนิด
เช่น อธิบายให้ลูกฟังว่าต้องแต่งตัวเสร็จก่อนแล้วถึงกินข้าว
และถ้าแกแต่งตัวเสร็จทันเวลาก็จะได้ฟังเทปนิทานเรื่องโปรดตอนกินข้าวด้วย
การกำหนดเวลาก็เป็นวิธีที่น่าสนใจ ซึ่งจะปรับใช้เป็นเกมก็ได้
เช่น ถ้าเจ้าตัวเล็ก (รวมทั้งคุณพ่อคุณแม่เองด้วย)
แต่งตัวเสร็จก่อนเข็มยาวถึงเลขที่กำหนด แกก็จะได้เล่นเกมสั้น ๆ ที่แกชอบก่อนไปโรงเรียน

****    ทำไปด้วยกัน
ถ้าสังเกตว่าเจ้าตัวเล็กชอบทำเลียนแบบคุณ
ก็ชวนแกทำกิจวัตรไปพร้อมกับคุณเลยสิคะ
เช่น ล้างหน้าขณะที่พ่อโกนหนวด หวีผมตามพ่อ
อาจเป็นเรื่องยากที่คุณพ่อคุณแม่จะทำใจปล่อยให้เจ้าตัวเล็ก
อยู่ในชุดที่ดูไม่เหมาะสมในสายตาของตัวเองได้
เพราะดูเหมือนไม่ค่อยเอาใจใส่ลูกเท่าไหร่
แต่ถ้าแลกกับความเชื่อมั่นของลูกน้อย และบรรยากาศดี ๆ
ที่ค่อนข้างราบรื่นในเช้าที่เร่งรีบ น่าจะคุ้มมั้ยล่ะค่ะ
...มาเซ็นสัญญาสงบศึกหน้าตู้กับเจ้าตัวเล็กกันเถอะ

เทคนิคน่าสน
- ให้ลูกเลือกเสื้อหรือกางเกงที่แกอยากใส่ขึ้นมาสักตัว
    แล้วคุณก็เลือกส่วนที่เหลือให้
- ตอนหน้าหนาวตราบใดที่แกยังใส่เสื้อหนาวทับอยู่ข้างนอก
    แกจะใส่อะไรข้างในก็ได้
- ตั้งกฎว่าถ้าลูกจะใส่ชุด ๆ เดียวตลอดทั้งวัน หรือนอนทั้งชุดนั้นก็ได้
   แต่วันรุ่งขึ้นต้องเปลี่ยนใหม่หมดทั้งชั้นนอกชั้นใน

พ่อแม่ควรรู้
- ยิ่งลูกยังเล็กเท่าไหร่ ความรับรู้ในเรื่องเวลาก็ยิ่งน้อยมากเท่านั้น
   และถ้าคุณยิ่งรีบเท่าไหร่ นอนใจได้เลยว่าเจ้าตัวเล็กต้องลอยชายสุดฤทธิ์
- ที่ไม่ยอมใส่ชุดที่คุณเลือกไม่ใช่การต่อต้านหรือลองดี
    แต่เป็นการแสดงสิทธิ์ต่างหาก
- ไม่ว่าแผนที่คุณเคยใช้จะแจ๋วแค่ไหน
   แต่พอเจ้าหนูเริ่มชินก็ต้องมีการปรับกันบ้างล่ะ
   บางทีแผนที่ให้เจ้าตัวเล็กช่วยคิดก็ใช้ได้ดีทีเดียว
- การประเมินว่าลูกชอบใส่เสื้อผ้าแบบไหน
   จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่หาเสื้อผ้าได้ตรงใจเจ้าตัวเล็กง่ายขึ้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น