วันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

กบนอกกะลา - เกิบ คุณค่าใต้ฝ่าเท้า

กบนอกกะลา - เกิบ คุณค่าใต้ฝ่าเท้า

[img]http://upic.me/i/ho/s-_resize.jpg[/img]

เรื่องย่อ
เกิบ ตามภาษาอีสาน หรือรองเท้าแตะที่เราคุ้นเคย ชื่อนี้ ดูเผินๆเหมือนไม่สำคัญ ....
ยิ่งถ้ามีตัวเปรียบเทียบ ชั้นหรู เช่นส้นสูง , ส้นตึก , ผ้าใบ หรือหนังกลับคัทชู เกิบยิ่งดูไร้ค่า
แต่ถ้าหากเรากลับถึงบ้านแล้ว ต้องถอดรองเท้าผ้าใบเก็บเข้าที่ เมื่อนั้น ความสำคัญของ
รองเท้าแตะคงจะเกิดขึ้นในทันที ใครจะเชื่อบ้างว่า รองเท้าแตะ กลับกลายเป็นหนึ่งใน
สถิติถูกลักขโมยมากที่สุด แต่ไม่ได้หมายความว่ามีแก๊งขโมยรองเท้าแตะหรอกนะ
มันหายตัวแบบไร้ร่องรอยไปเอง สาเหตุหนึ่งน่าจะมาจากการหยิบยืม สวมใส่โดยพละการ
เพราะตัวมันเองก็รู้สึกว่าจะเป็นของสาธารณะที่หยิบยืมง่าย จนบางครั้งคนที่ยืมไปก็ลืมคืน
และกลายเป็นหัวขโมย โจรกรรมรองเท้าแตะไปโดยปริยาย สมัยหนึ่ง เกิบยาง
(บรรพบุรุษของเกิบแตะ ทำจากยางรถยนต์) ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของฝ่ายซ้ายเลยทีเดียว
(ฝ่ายประชาชนที่ต่อต้านการกดขี่ ของฝ่ายทุนนิยม หรือฝ่ายรัฐที่มักใส่รองเท้าบูต)
ซึ่งในยุค 14 ตุลา 16 นั้น นักศึกษาที่หนีเข้าป่าก็มักจะใส่รองเท้ายาง ตามแบบเวียดนาม
จนเกิดกระแสการแต่งกายที่ฮิตในสมัยนั้น เรียก ว่า 5 ย. คือ 1 ผมยาว , 2 เสื้อยืด , 3 กางเกงยีนส์ ,
4 สะพายย่าม และ 5 รองเท้ายาง มาในยุคปัจจุบัน ความขัดแย้งทางความคิดจบลงแล้ว
แต่ความสำคัญของรองเท้าแตะยังไม่จบลง เมื่อรองเท้ายางรถยนต์เริ่มหายาก
และเทคโนโลยีการผลิตรองเท้าก็เจริญก้าวหน้า ชาวบ้านจึงเปลี่ยนมาใส่รองเท้าแตะ หูคีบ
หรือที่เรียกกันว่า “สามหูหน้าขาว” แทน รองเท้าแตะ มีส่วนผสมหลักๆ จาก 2 ส่วน คือ
ยางพารา กับโฟม (ผลิตภัณฑ์จากปิโตรเคมีสามารถทำปฏิกิริยากับยางพาราจนขยายตัวได้หลายเท่า)
นำมาขึ้นรูปด้วยความร้อน รีดเป็นแผ่นตัดด้วยเครื่องจักรแบบง่ายๆ ใช้แรงงานคนเป็นส่วนใหญ่
ในการผลิต และผลิตได้เป็นจำนวนมาก เราจึงมักจะซื้อรองเท้าแตะได้ในราคาถูก ถูกมากจน
รู้สึกว่ามันไร้ค่า และมักจะไม่ค่อยเสียดายยามทำมันหาย หรือเมื่อมันหายไปเอง แต่สำหรับคน
กลุ่มหนึ่งคุณค่าของรองเท้าแตะไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาเพียงไม่กี่ บาท แต่พวกเขาก็รักรองเท้าแตะ
เทียบเท่ากับชีวิตเลยทีเดียว นั่นคือกลุ่มคนที่ พึ่งพาอาศัยเกี่ยวพันกับกระบวนการต่างๆ ตั้งแต่เริ่มเกิด
จนเดินทางไปถึงฝ่าเท้าของผู้สวมใส่ ในราคาไม่เกิน 30 บาท ซึ่งใน30 บาทนี้ต้องแบ่งให้กับผู้คน
มากมาย ตั้งแต่ชาวสวนยาง , แท่นขุดเจาะน้ำมัน, คนงานชาวพม่าในโรงงาน, ร้านค้าส่งในกรุงเทพฯ ,
รถบรรทุกรับจ้างขนส่งสินค้า , ร้านค้าปลีกทั่วประเทศ ไปจนถึงรองเท้าจำนวนมากมายมหาศาลใน
ร้านค้าประเทศลาว เราจึงเห็นจำนวนคนเรือนหมื่นเรือนแสน ดำรงชีวิตอยู่ด้วยสภาพเศรษฐกิจ
และการซื้อขายของรองเท้าแตะนับล้านคู่จากเมืองไทย วันนี้รองเท้าแตะจากจีนกำลังดาหน้าเข้ามา
ช่วงชิงพื้นที่ใต้ฝ่าเท้า กลายเป็นคู่แข่งยักษ์ใหญ่รายสำคัญของคนไทย เช่นเดียวกับสินค้าจากเมือง
มังกรอีกนานาชนิด เหมือนครั้งหนึ่งที่รองเท้าแบรน์เนมฝรั่งเคยเข้ามาตีตลาด โหมโฆษณาทางทีวี
จนเกิดเป็นกระแสแฟชั่นรองเท้าฟองน้ำวัยรุ่นฮิตกันทั่วบ้าน ทั่วเมือง รองเท้าแตะไทย น่าจะเป็นหนึ่ง
ในหนูตัวเล็ก ๆ ที่ช่วยราชสีห์ได้บ้าง ในยุคน้ำมันแพงเช่นทุกวันนี้
ติดตามได้ในรายการกบนอกะลา ตอน เกิบ คุณค่าใต้ฝ่าเท้า

**************************************************
กบนอกกะลา - เกิบ รองเท้าแตะ_Force8949.part1.rar
(99 MB)
http://www.mediafire.com/?aedi3nz3zif
กบนอกกะลา - เกิบ รองเท้าแตะ_Force8949.part2.rar
(99 MB)
http://www.mediafire.com/?m4tzafz4mm4
กบนอกกะลา - เกิบ รองเท้าแตะ_Force8949.part3.rar
(99 MB)
http://www.mediafire.com/?j2mvuut4yl2
กบนอกกะลา - เกิบ รองเท้าแตะ_Force8949.part4.rar
(99 MB)
http://www.mediafire.com/?cbm5idgzttm
กบนอกกะลา - เกิบ รองเท้าแตะ_Force8949.part5.rar
(39.4 MB)
http://www.mediafire.com/?zojqz1jtzay
**********************************************
การสร้างสิ่งดีดีให้กับสังคม หากเราร่วมกันสร้างตามที่เราถนัด
แค่คนละชิ้นงาน ปัญหาบ้านเมืองก็คงไม่เกิดพอกพูนปานนี้
อย่าโทษเด็กและเยาวชนว่าทำไมมีแต่ปัญหา โทษเราเองที่ไม่ใส่สิ่งดีดีให้เด็กและเยาวชน
จะดีกว่า ถ้าเราร่วมกันสร้าง สังคมเราจะได้มีแต่สิ่งดีดี

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น