ขันที...ชีวิตที่น่าเศร้า
"ขันที" คือ ชายที่ถูกตอนหรือถูกตัดถูกทำลายอวัยวะเพศจนหมดสิ้น ทำให้ไม่สามารถร่วมเพศได้อีกทุกกรณี
ขันทีมีมากว่า 5,000 ปี และมีแพร่หลายในหลายประเทศ ทั้งซีกโลกตะวันออกและซีกโลกตะวันตก
.
สาเหตุแห่งการเป็นขันทีในเบื้องต้นเกิดจากจิตใจที่เหี้ยมโหดป่าเถื่อนของมนุษย์ผู้ทรงอำนาจซึ่งได้ชัยชนะในสงคราม
หลังจากได้ครอบครองดินแดนของผู้แพ้แล้วก็เกิดเกรงว่าถ้าปล่อยให้มีลูกหลานเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ สักวันหนึ่งอาจรวบรวมคนขึ้นมาต่อต้านตนได้
.
อย่ากระนั้นเลยจับพวกเชลยศึกที่เป็นผู้ชายมาตอนเสียดีกว่า จะได้ไม่มีลูกอีกต่อไป
แล้วการคุมกำเนิดด้วยวิธีสุดโหดก็เริ่มขึ้น
ปรากฏว่าผู้ถูกตอนเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะการตอนหรือคุมกำเนิดวิธีนี้จะใช้มีดคมเฉือนอวัยวะเพศออกไปทั้งพวง
ทำให้เสียเลือดมากจนตาย หรือถ้าไม่ตายเพราะเสียเลือดก็ตายเพราะแผลติดเชื้อ มีผู้รอดชีวิจจากการถูกตอนแค่ 2-3 คน ในจำนวน 10 คน
.
ผู้คิดริเริ่มตอนคนเริ่มมองเห็นปัญหาที่จะตามมาถ้ายังดำเนินงานตอนคนด้วยวิธีนี้
เนื่องจากเชลยศึกตายไปเป็นจำนวนมาก ขืนทำต่อไปอาจไม่เหลือเชลยศึกที่จะเอามาเป็นทาสทำงานให้ก็ได้
อีกประการหนึ่งบรรดาเชลยศึกที่เป็นชายชาตรีทั้งหลายเริ่มรวมตัวเตรียมสู้ตาย
จะไม่ยอมให้ลากตัวไปบั่นทำลายอวัยวะเพศของตน ดีที่การตอนคนด้วยวิธีดังกล่าวล้มเลิกไปเสียก่อน
.
ว่ากันว่าการตอนคนให้เป็น "ขันที" เริ่มในประเทศจีนเมื่อหลายพันปีก่อน
เนื่องจากภายในพระราชวังที่ประทับขององค์ฮ่องเต้มีนางสนมกำนัลร่วมพันคน พนักงานฝ่ายในขืนเป็นผู้ชายก็คงวุ่นวายไปหมด
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงต้องใช้ "ขันที" คือชายที่ถูกตอนเรียบร้อยให้เป็นพนักงานทำหน้าที่ต่างๆ ภายในพระราชวัง
.
ชายที่เป็นขันทีส่วนใหญ่จะสูญเสียอารมณ์ทางเพศ เนื่องจากต่อมฮอร์โมนในอัณฑะถูกตัดทิ้งไป
อาจมีขันทีบางคนที่ยังหลงเหลืออารมณ์ทางเพศอยู่ และอาจมีความสัมพันธ์ทางเพศกับนางในบางคน โดยใช้วัสดุเทียมแทนของจริง ซึ่งหากถูกจับได้ในกรณีนี้จะมีโทษถึงประหารชีวิต
.
ชายที่จะมาเป็นขันทีนั้นไม่ใช่จะเป็นได้ง่ายๆ และจะต้องถูกตอนขณะมีอายุในวัยเด็กตัวเล็กๆ
โดยพ่อแม่ยินดีอนุญาตยกเด็กให้ไปเป็นขันทีด้วยความเต็มใจ ทั้งๆ ที่รู้ว่าการ "ตอน" มีอันตรายถึงชีวิตได้ง่ายที่สุด แต่ผู้เป็นพ่อแม่ก็ยอมเสี่ยง เพราะหวังให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่าตน
.
เนื่องจากยุคสมัยนั้นชาวจีนโดยทั่วไปประสบกับความยากจนข้นแค้นอย่างสาหัส คนมีฐานะมั่งคั่งร่ำรวยมีเพียงหยิบมือเดียว
ซึ่งส่วนมากเป็นเจ้าของที่ดินและพ่อค้าคนกลาง คนส่วนใหญ่ของประเทศเป็นชาวไร่ชาวนาเป็นกรรมกรใช้แรงงาน ถูกขูดรีดเอารัดเอาเปรียบตลอดเวลา
ความแตกต่างของคนมั่งมีร่ำรวยกับคนยากจนแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว คนมั่งมีกินใช้ฟุ่มเฟือยเหลือเฟือ แต่คนยากจนถึงขั้นอดตายตามข้างถนนเพราะไม่มีอะไรจะกิน
.
ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ที่มีฐานะยากจนถึงยินดีให้ลูกไปเป็น "ขันที" เพราะรับรู้มาว่าผู้เป็นขันทีมีชีวิตความเป็นอยู่สุขสบาย ใด้ทรัพย์สินเงินทองเสื้อผ้าอาภรณ์ชั้นดี
ทั้งมียศศักดิ์เพียบพร้อมด้วยข้าทาสบริวาร แต่ก็ใช่ว่าเด็กทุกคนจะมีโอกาสเป็นขันทีได้ง่ายๆ
เพราะจะมีเจ้าหน้าที่คัดสรรเด็กที่สมัครมาเป็นขันทีอีกชั้นหนึ่ง โดยมีการคัดเลือกอย่างละเอียดรอบคอบทีเดียว
.
เด็กที่จะผ่านการเลือกเฟ้นให้ไปเป็นขันที จะต้องมีรูปร่างสมบูรณ์ไม่พิกลพิการ มีหน้าตาบุคลิกหมดจดไม่ขี้ริ้วขี้เหร่ ผิวพรรณผ่องใส และต้องมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด
หลังจากผ่านการพิจารณาแล้วก็จะถูกส่งไป "ตอน" คือการตัดเอาอวัยวะเพศออก หรือทำลายอวัยวะเพศกระทั่งไม่สามารถใช้งานได้ วิธี "ตอน" มีอยู่ด้วยกัน 3 วิธี คือ
......1.ใช้มีดโกนคมกริบเฉือนอวัยวะเพศและอัณฑะออกด้วยการเฉือนเพียงครั้งเดียว แล้วใช้สมุนไพรปิดแผลไว้
ก่อนจะทำการ "ตอน" จะให้เด็กสูบฝิ่นหรือกินฝิ่นจนมีสติเหลือน้อยเต็มที เป็นการลดความเจ็บปวดขณะถูกเฉือนอวัยวะเพศ จากนั้นจะสอดท่อสำหรับปัสสาวะไว้
......2. ใช้วิธีทำลายอัณฑะด้วยการผ่าแล้วดึงอัณฑะออกมาตัดทิ้งไปเหลือไว้แต่อวัยวะเพศ ทำให้ไม่มีความรู้สึกทางเพศเนื่องจากต่อมฮอร์โมนถูกทำลายหมดสิ้น
......3. ใช้วิธี ผูก, บีบ, รัด, ทุบอัณฑะจนเสียหาย รวมทั้งต่อมฮอร์โมนก็เสียหายด้วย ทำให้ไม่มีอารมณ์ทางเพศ และอวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้อีก
.
การเป็นขันทีนั้นยังมีการแบ่งระดับออกไปเป็น 3 ระดับ ตามขั้นตอนของการ "ตอน" ดังนี้
......1. ขันทีที่ถูกเฉือนอวัยวะเพศและอัณฑะออกไปจนหมดเกลี้ยง ถือว่าเป็นขันทีระดับสูง อนุญาตให้ทำหน้าที่รับใช้ใกล้ชิดกับนางสนมกำนัล เจ้าจอมหม่อมห้ามทั้งหลาย
เพราะเป็นที่ไว้วางใจว่าไม่สามารถร่วมเพศได้ทุกกรณี
......2. ขันทีระดับรองลงมา ได้แก่ พวกที่ถูกลาก, ดึงอัณฑะออกมาทำลายทิ้งหมด เหลืออวัยวะเพศใช้ปัสสาวะ แต่หมดสมรรถภาพทางเพศ
ขันทีระดับนี้ได้รับอนุญาตให้ใกล้ชิดกับนางในในชั้นที่ห่างออกมา ห้ามไม่ให้ใกล้ชิดกับนางสนมกำนัล เจ้าจอมหม่อมห้ามอย่างเด็ดขาด
......3. ขันทีระดับล่างสุด คือ พวกขันทีที่ถูกทำลายอัณฑะให้เสียหายด้วยการ บีบ, รัด, ทุบ กระทั่งหมดสมรรถภาพทางเพศ
ขันทีประเภทนี้ให้เป็นทหารรักษาวังชั้นในชั้นนอก โอกาสใกล้ชิดกับนางในแทบไม่มี ขันทีรักษาวังจะถูกฝึกให้ใช้อาวุธเช่นเดียวกับพวกทหารประจำการ
.
เด็กๆ ที่ถูกส่งมาให้ "ตอน" เป็นขันทีสูญเสียชีวิตเกือบครึ่งต่อครึ่ง เนื่องจากสูญเสียโลหิตหรือแผลติดเชื้อ
เพราะฉะนั้นผู้ทำหน้าที่ "ตอน" จะต้องเป็นผู้ชำนาญจริงๆ หลังจากผ่านการตอนเรียบร้อยแล้วและรักษาชีวิตเอาไว้ได้
เด็กจะถูกส่งตัวให้เข้าไปฝึกงานในราชสำนักอีกหลายปีจนรู้หน้าที่การงานชำนิชำนาญ จึงจะถูกมอบหมายเป็นขันทีตามหน้าที่ต่างๆ ในเขตพระราชวัง
.
ขันทีเหล่านี้หลังจากถูกทำลายความเป็นเพศที่แท้จริงจนหมดสิ้น จะมีบุคลิกภาพที่เปลี่ยนไป จะเป็นหญิงก็ไม่ใช่จะเป็นชายก็ไม่เชิง
กลายเป็นคนมีความมักใหญ่ใฝ่สูง ละโมบโลภมาก มีความอิจฉาริษยาสูง ไม่ต้องการให้ใครได้ดีกว่าตน ประกอบกับเป็นคนมีความเฉลียวฉลาดสูงจึงสามารถทำเรื่องร้ายๆ เอาไว้มากมาย
.
มีขันทีหลายคนในประวัติศาสตร์จีนสร้างความเลวร้ายเอาไว้อย่างน่าพรั่นพรึง
เช่น หัวหน้าขันทีชื่อ หลิว ชิน ในรัชสมัยฮ่องเต้หว่างสู ได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยสูงสุด ให้ถืออาญาสิทธิ์เป็นผู้บัญชาการปราบกบฏ
หลังจากปราบกบฏราบคาบแล้ว ขันทีหลิว ซิน ถือโอกาสกวาดล้างเหล่าขุนนางที่ไม่ยอมเป็นพวกตนจนไม่เหลือแม้แต่คนเดียว
.
ขันทีหลิว ชิน ใส่ความขุนนางผู้บริสุทธิ์ว่ามีส่วนร่วมกับพวกกบฏ และสั่งประหารชีวิตหมดสิ้น แล้วส่งขุนนางฝ่ายตนขึ้นมาครองตำแหน่งแทน
.
แม้พวกขันทีจะมีอำนาจวาสนา มีทรัพย์สมบัติมากมายมหาศาลเพียงใดก็ตาม แต่ล้ำลึกในจิตใจหาความสุขอันแท้จริงไม่ได้
เนื่องจากสูญเสียเพศอันแท้จริงของตนมีความปรารถนาต้องการได้เพศของตนคืนมา
.
ขันทีบางคนถึงกับเก็บรักษาอวัยวะเพศที่ถูกเฉือนออกมาไว้ในกล่องอย่างดี
และสั่งไว้ว่าเมื่อตนตายเมื่อใดให้นำอวัยวะเพศไปฝังรวมกับร่างด้วย เพื่อหวังว่าเกิดใหม่ชาติหน้าตนจะได้มีเพศอันสมบูรณ์
.
ส่วนขันทีทางตะวันออกกลางมีมาก่อนคริสตกาลประมาณ 800 ปีล่วงมาแล้ว เริ่มขึ้นที่เมโสโปเตเมียไปยังซีเรีย จากซีเรียไปสู่เอเชียไมเนอร์ แล้วแพร่หลายไปยังยุโรป
.
ในประวัติศาสตร์ระบุว่าชาวเปอร์เซียนิยมการมีขันทีอย่างแพร่หลาย
เมื่อชาวไอโอเนียนพ่ายแพ้ในสงครามต่อซีเรียจะถูกตอนให้เป็นขันทีและถูกซื้อขายดุจเป็นสินค้าราคาสูง
การนำสิ่งของที่ถือว่ามีค่าสูงสุดไปถวายให้กษัตริย์ ไม่มีสิ่งใดจะล้ำค่าเท่ากับนำสาวพรหมจารีที่สวยที่สุดพร้อมกับขันทีไปถวาย
.
ในสมัยออตโตมาน พวกตุรกีหรือพวกเติร์กต้องการขันทีไปดูแลบรรดานางบำเรอในฮาเร็มของสุลต่านและกาหลิบจำนวนมากทำให้มีการค้าขายขันทีอย่างกว้างขวาง
โดยเฉพาะขันทีในฮาเร็มของสุลต่านจะมีคนที่เป็นขันทีหลายเชื้อชาติ ซึ่งขันทีเหล่านี้มาจากพวกทาสของประเทศหรือแว่นแคว้นที่พ่ายแพ้สงคราม เช่น เอธิโอเปีย นูเบีย ไปแซนติอุม และยุโรป
.
ทาสจำนวนมากจะถูกนำไปทำการ "ตอน" ให้เป็นขันทีที่เมืองซามาร์กัน และเมืองอัสซิอุทในอียิปต์ หรือที่เมืองดีเบนท์ในอาร์เมเนีย
ซึ่งเป็นศูนย์กลางการตอนทาสให้เป็นขันที ที่เมืองนี้มีผู้เชี่ยวชาญการ "ตอน" ทำมาหากินจำนวนมาก เปิดเป็นอาคารสำนักงานรับจ้าง "ตอน" อย่างเปิดเผย
และมีกำหนดราคาลดหลั่นกันไปตามฝีมือและชื่อเสียงของนักตอนแต่ละคน
.
ทาสที่ถูกนำมาตอนเป็นขันทีตามเมืองต่างๆ ดังกล่าว ส่วนใหญ่จะเสียชีวิตเนื่องจากเสียเลือดมาก หรือแผลติดเชื้อ หรือทนความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลไม่ไหว
ส่วนคนที่รอดตายและกลายเป็นขันทีสมบูรณ์แล้ว จะถูกขายต่อไปให้พ่อค้าทาสในกรุงไคโรและกรุงแบกแดด
ซึ่งราคาซื้อขายจะสูงหรือต่ำเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณเป็นเกณฑ์
.
การค้าทาสในตะวันออกกลางสมัยนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งเรืองเต็มที่ จากกฏหมายของชาวมุสลิมมีบทบัญญัติข้อหนึ่งกล่าวว่า
"เชลยที่ถูกจับตัวได้ในสงคราม ให้ถือเป็นสมบัติอันชอบธรรมของผู้ชนะ" ดังนั้นการที่เชลยศึกตกเป็นทาสจะถูกนำไปขาย หรือมีการซื้อขายกันเป็นทอดๆ จึงไม่ผิดบทบัญญัติทางศาสนา
.
การค้าทาสในยุคนั้นไม่เพียงแต่มีการซื้อขายพวกเชลยศึกเท่านั้น พวกพ่อค้าทาสยังใช้วิธีลักพาตัวบ้าง
ซื้อจากหัวหน้าเผ่าของชนบางเผ่าบ้างโดยเฉพาะทาสผิวดำแถบแอฟริกาจะถูกนำไปขายในตะวันออกกลางตามหัวเมืองใหญ่ๆ
เช่น เบคุต เจตดาห์ เมกกะ และเมดินา หรือถูกพาตัวข้ามทะเลทรายซาฮาราไปขายถึงเมืองทริโปติ ตูนิส หรือโมร็อกโก
.
การขนส่งทาสไปขายยังเมืองไกลๆ เป็นไปด้วยความยากลำบากและเสี่ยงอันตรายสูงมาก
นอกจากเส้นทางจะทุรกันดารยังมีโจรผู้ร้ายหลายก๊กหลายเหล่า คอยดักปล้นแย่งเอาทาสและทรัพย์สินเงินทองตลอดรายทาง
พวกโจรเหล่านี้แต่ละก๊กมีจำนวนคนมากและมีความโหดเหี้ยมชั่วร้ายอย่างที่สุด
พ่อค้าทาสที่จะเสี่ยงเดินทางผ่านดินแดนโจร จะต้องจัดเตรียมกำลังคนที่มีฝีมือการสู้รบเป็นขบวนจึงจะพอเอาตัวรอดไปได้
.
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการตั้งเมืองท่าเป็นระยะๆ ตามริมฝั่งแม่น้ำไนล์ เพื่อให้เป็นตลาดค้าทาส อำนวยความสะดวกแก่ผู้ซื้อผู้ขายทาส
เมืองท่าเหล่านี้มีกองทหารมาทำหน้าที่ปกป้องคุ้มครองไม่ให้พวกโจรผู้ร้ายยกคนเข้ามาปล้นสะดม
และแม้แต่กลางทะเลทรายซาฮาราก็มีเมืองค้าทาสตั้งอยู่ท่ามกลางความแห้งแล้งกันดาร เช่น เมืองคีมาโบ และเมืองมาร์ซุค
.
ระหว่างพ่อค้าทาสนำทาสไปขายตามเมืองท่าต่างๆ ริมฝั่งแม่น้ำไนล์และเมืองกลางทะเลทรายซาฮารา
พวกพ่อค้าทาสจะจับเอาเด็กชายผิวดำมาทำการ "ตอน" ด้วยวิธีใช้มีดคมกริบเฉือนอวัยวะเพศและอัณฑะออกจนหมด
ซึ่งวิธีตอนแบบนี้ทำให้เด็กเสียชีวิตไปมากต่อมาก กล่าวได้ว่าในจำนวนเด็ก 10 คน มีผู้รอดชีวิตแค่ 1-2 คน เท่านั้น หรืออาจไม่มีใครรอดชีวิตเลยก็ได้
แต่พวกพ่อค้าทาสก็ถือว่าคุ้ม เพราะราคาค่าตัวเด็กทาสที่ถูกตอนเป็นขันทีสูงมาก
.
ในตุรกีสมัยนั้น ถือว่าเป็นตลาดค้าทาสและขันทีใหญ่ที่สุด โดยเฉพาะพวกขันทีเป็นที่ต้องการของสุลต่านซึ่งมีฮาเร็มของตน
รวมทั้งพ่อค้าผู้มั่งคั่งร่ำรวยซึ่งก็มีฮาเร็มเหมือนกัน ทาสและขันทีที่ถูกส่งเข้ามาในตลาดค้าทาสและขันทีของตุรกีส่วนมากจะมาจากอียิปต์ อบิสซีเนีย และแอฟริกากลาง
และมีขันทีเป็นเด็กหนุ่มผิวขาวจากจอร์เจีย และเซอร์คัตเซียอีกจำนวนหนึ่ง
.
สุลต่านและพ่อค้าผู้มั่งคั่งจะไปเลือกซื้อขันทีให้มารับใช้นางในฮาเร็มซึ่งมีอยู่มากมาย เพราะเป็นที่ไว้วางใจได้ว่าขันทีเหล่านี้ไม่มีทางล่วงละเมิดทางเพศกับนางในฮาเร็มทุกกรณี
เนื่องจากอวัยวะเพศถูก "ตอน" ไปหมดสิ้น และขันทีแทบทุกคนจะไม่มีอารมณ์ทางเพศอีกต่อไป
.
ราคาค่าตัวของขันทีในการซื้อขายในตลาดค้าทาสจะถือเอาอายุที่เพิ่งพ้นวัยเด็ก รูปร่างสมส่วน แข็งแรง มีหน้าตาหมดจด ผิวพรรณสะอาดเป็นเกณฑ์
หากขันทีคนใดมีคุณสมบัติครบถ้วนได้มาตรฐานจะมีค่าตัวสูงมากบางครั้งผู้ซื้อต้องประมูลแข่งกันซื้อไปก็มี
.
ผู้ชายที่ถูกตอนให้หมดสมรรถภาพทางเพศอย่างสิ้นเชิงคือ ร่วมเพศไม่ได้ แต่อารมณ์ทางเพศอาจยังมีอยู่ เป็นไปเพราะความเห็นแก่ได้เห็นแก่ตัวของผู้อื่นทั้งสิ้น
โดยที่เจ้าตัวไม่ต้องการ ไม่มีความปรารถนาจะให้เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อย
.
ดังนั้นการตอนหรือการตัดเครื่องเพศออกไป หรือกระทำให้เครื่องเพศเสียหาย จึงต้องทำกันตอนเป็นเด็กๆ เพราะเด็กไม่อาจขัดขืนขัดขวางการกระทำอันทารุณดังกล่าวได้
.
ชายที่ถูกตอนกระทั่งกลายเป็นขันทีจะถูกนำไปใช้งานเกี่ยวกับการดูแลควบคุมหญิงบำเรอของผู้ทรงอำนาจ
เช่น สุลต่านซึ่งมีฮาเร็มที่หญิงสาวสวยอยู่เป็นจำนวนมากเพราะถือว่าปลอดภัยสำหรับสมบัติทางกามที่มีชีวิตและเลือดเนื้อเหล่านั้น
ส่วนขันทีของจีนจะถูกมอบหมายให้ทำงานในพระราชวังชั้นในขององค์ฮ่องเต้ ซึ่งมีพระสนมกำนัลและเจ้าจอมหม่อมห้ามมากมาย
.
นอกจากนี้ยังมีขันทีหรือผู้ชายที่ถูกตอนเพื่อนำไปรับใช้ในโบสถ์ของคริสต์จักร คือ ให้เป็นนักร้องประจำโบสถ์ ภาษาอิตาลีเรียกว่า "คาสตราโต"
.
นักร้อง "คาสตราโต" จะต้องมีเสียงร้องแหลมเล็กเป็นพิเศษ และสามารถทอดเสียงได้ยาวนานถึง 2 นาที ซึ่งคนธรรมดาไม่สามารถกระทำได้
.
ผู้จะเป็นนักร้องประเภท "คาสตราโต" ได้ดี จำเป็นต้องถูกตอนมาแล้ว
เพราะผลจากการตัดเครื่องเพศออกไป จะเกิดการพัฒนาภายในร่างกายให้ผิดปกติ เนื่องจากไม่มีอัณฑะผลิตฮอร์โมนเพศชาย
.
การขาดฮอร์โมนเพศชายจะทำให้เสียงไม่แตกแหบห้าวเช่นเด็กชายทั่วไปที่ก้าวข้ามวัยเด็กสู่วัยหนุ่ม
ขนตามใบหน้ามีน้อยหรือไม่มีเลย ไขมันตามลำตัวจะไม่มี แต่จะไปพอกพูนที่ก้นและขาอ่อนแทน และทำให้ผมดกหนาขึ้น
.
เด็กชายที่ถูกตอนหรือตัดอัณฑะทิ้งไปมักจะส่งผลให้ร่างกายสูงขึ้น มีหน้าอกขยายใหญ่ผิดปกติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการร้องเพลงเป็นพิเศษ
และสามารถควบคุมการหายใจได้ดีกว่าเดิม อั้นลมหายใจได้นาน และทอดเสียงได้ยาวเป็นพิเศษ
.
เด็กชายที่ถูกตอนโดยการตัดอัณฑะทิ้งเพื่อต้องการเป็นนักร้อง "คาสตราโต" ซึ่งทางศาสนจักรรับไว้ จะได้รับการฝึกให้เป็นนักร้องใช้เวลานานถึง 10 ปี
จากนั้นผู้ที่มีเสียงยอดเยี่ยมและมีคุณสมบัติในการร้องเพลงเป็นพิเศษจะถูกคัดให้ไปเป็นนักร้องประจำโบสถ์ใหญ่ๆ ที่มีชื่อเสียง และจะมีรายได้สูงลิ่ว
เทียบกับเงินเดือนของสมาชิกวงออเคสตร้า จะได้มากกว่าถึง 100 เท่า
.
เหตุนี้พ่อแม่ของเด็กในอิตาลีและสเปนจึงยอมให้ลูกเสี่ยงชีวิตขณะถูกตัดอัณฑะทิ้งไป เพราะการตัดอัณฑะสมัยนั้นมีโอกาสเสียชีวิตสูงมาก
.
การตอนหรือตัดอัณฑะเพื่อให้เป็นนักร้อง "คาสตราโต" น่าหวาดเสียวและเป็นอันตรายอย่างที่สุด
โดยขั้นแรกจะนำเด็กชายไปแช่ในอ่างน้ำอุ่นจัด เพื่อให้อวัยวะเพศอ่อนตัวลง จากนั้นก็จะกดหลอดเลือดดำตรงลำคอให้เด็กมึนงงหรือหมดสติ
แล้วใช้มีดคมกริบแช่น้ำร้อนเฉือนเอาอวัยวะเพศออกทั้งพวง ถ้าเด็กรอดตายจากพิษบาดแผล คือ ไม่เสียเลือดมากจนเกินไปและแผลติดเชื้อ ก็ถือว่าโชคดีไป
.
แต่ส่วนมากเด็กจะตายถึงสองในสาม มีแค่ส่วนเดียวที่รอดชีวิต พวกที่ตายมากที่สุด คือ เลือดออกไม่หยุด แผลติดเชื้อ และได้รับฝิ่นมากเกินไป
เพราะสมัยนั้นใช้ฝิ่นเป็นยาระงับปวด หากรอดตายและแผลหายแล้ว จะนำเด็กไปให้ทางการศาสนาต่อไป
.
ที่จริงการตัดอัณฑะเป็นเรื่องต้องห้ามทางศาสนา ใครที่ทำเช่นนี้จะมีความผิดร้ายแรงถึงขั้นถูกประหารชีวิต หรือถูกขับออกนอกศาสนา
แต่พ่อแม่เด็กจะบอกกับพระผุ้ใหญ่ว่าถูกหมูป่ากัด หรือถูกม้าเตะเครื่องเพศจนเสียหาย พระผู้ใหญ่ซึ่งรู้ทั้งรู้จะแสร้งทำไม่รู้เรื่องรู้ราว และรับเด็กไว้ในความอุปการะ
.
เด็กชายในอิตาลีที่ถูกตัดอัณฑะและเครื่องเพศทิ้ง เพื่อจะเป็นนักร้อง "คาสตราโต" มีไม่ต่ำกว่า 4,000 คน และเด็กชายในสเปนก็มีจำนวนพอๆ กัน
.
นักร้องในโบสถ์คาทอลิกหรือนักร้อง "คาสตราโต" ที่มีชื่อเสียงที่สุดในศตวรรษที่ 18 คือ คาร์โล บรอสซิ หรือรู้จักในนาม "ฟาริเนลรี่"
ฟาริเนลรี่เป็นนักร้อง "คาสตราโต" ที่มีชื่อเสียงเป็นที่นิยมของประชาชนชาวอิตาลีขั้นสูงสุดถึงกับได้รับการขนานนามว่าเป็น "นักร้องของพระราชา"
.
แม้จะเป็นที่รู้กันว่าฟาริเนลรี่ไม่มีเครื่องเพศ แต่ก็มีสตรีหลงใหลเขาไม่น้อย มีสตรีโฉมงามนางหนึ่งคลั่งไคล้ฟาริเนลรี่อย่างที่สุด
เธอผู้นี้คอยติดตามเขาไปทุกหนทุกแห่งและยินยอมทำตามความปรารถนาของฟาริเนลรี่ทุกอย่าง แม้กระทั่งฟาริเนลรี่พาไปที่เตียงและให้น้องชายของเขาซึ่งไม่ได้ตัดอวัยวะเพศร่วมรักให้ดู เธอก็ยินยอม
.
ในอินเดียก็มีพวกขันทีเหมือนกัน โดยย้อนยุคขึ้นไปในสมัยกษัตริย์มูกัลเรืองอำนาจ (ศตวรรษที่ 16-17)
การ "ตอน" หรือการตัดเครื่องเพศทิ้งเป็นการกระทำต่อทหารของศัตรูที่พ่ายแพ้สงคราม แม้จะมีกฏหมายโบราณห้ามไม่ให้กระทำเช่นนั้น แต่สำหรับผู้ชนะย่อมสามารถจะทำอย่างไรก็ได้ตามอำเภอใจ
.
ในปัจจุบัน อินเดียไม่มีขันทีที่ถูกตอนเครื่องเพศอีกแล้ว แต่ยังมีบุคคลประเภทหนึ่งที่ยังถูกเรียกว่าเป็น "ขันที"
คือ พวกกะเทยซึ่งชาวอินเดียรู้จักกันในนาม "ฮิจรา" ฮิจราส่วนใหญ่จะตัดอัณฑะออกไปทั้งหมด
ชอบแต่งกายและแต่งหน้าทาปากเป็นหญิง ตามเมืองใหญ่ๆ ในอินเดียจะมีพวกฮิจราอยู่กันเป็นกลุ่มใหญ่นับหมื่นคน และมีหัวหน้าเป็นผู้ควบคุมดูแลเรียกว่า "กุรุ"
โดยเฉพาะที่เมืองบอมเบย์เมืองเดียวมีพวกฮิจรากว่า 150,000 คน
.
พวกฮิจราเลี้ยงชีพด้วยการไปตามงานแต่งงาน หรือวันเกิดวันอันเป็นมงคลต่างๆ แล้วทำพิธีเรียกโชคลาภความมั่งคั่งร่ำรวยมาให้
ถ้าเจ้าภาพไม่จ่ายเงินหรือแสดงความรังเกียจ พวกฮิจราจะกลั่นแกล้งด้วยการข่มขู่ว่าจะเปลือยกายกลางงาน
สร้างความอับอายขายหน้าให้เจ้าภาพ ซึ่งเจ้าภาพรายไหนรายนั้นจะรีบจ่ายเงินไปให้พ้นๆ โดยเร็ว
.
ฮิจราในอินเดียนั้นชาวอินเดียทั้งเกลียดทั้งกลัว พวกนี้จะแต่งหน้าแต่งตัวอย่างฉูดฉาด และกล้าทำในสิ่งที่น่าอับอายขายหน้าซึ่งคนธรรมดาอับอายไม่ยอมทำ
จึงมีหลายบริษัทว่าจ้างให้พวกฮิจราทำหน้าที่ทวงหนี้แทนและฮิจราทำงานอย่างได้ผล
.
บ้านใด ร้านค้าใด ถ้าฮิจราไปทวงหนี้จะลนลานเตรียมเงินเอาไว้ให้ครบถ้วน เพราะถ้าฮิจรามาเป็นครั้งที่ 2 หรือที่ 3 จะเจอการแหกปากโวยวายประจานจนรู้ไปทั่ว
หรือไม่อย่างนั้นก็จะปักหลักตะโกนทวงหนี้ซ้ำซากครึ่งค่อนวัน เล่นเอาคนเป็นหนี้แทบแทรกแผ่นดินหนีกันเลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น