วันอาทิตย์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2556

ทำธุรกิจ-ห้ามขาดความทะเยอทะยาน

ทำธุรกิจ-ห้ามขาดความทะเยอทะยาน

"รวยน้อยเพราะประหยัด รวยมากเพราะสวรรค์โปรด" ควรเป็นหลักการข้อสุดท้ายที่เจ้าของธุรกิจขนาดเล็กทุกคนจะคำนึงถึง ความปรารถนาพื้นฐานของพ่อค้าขนาดเล็กก็คือ ไม่ต้องกังวลเรื่องปากท้อง และไม่ต้องทนรองรับอารมณ์บูดของเจ้านาย ความปรารถนาในระดับนี้ โดยทั่วไปแล้ว ขอเพียงใช้ความมานะพยายามและไม่ทำผิดพลาดมากนัก พ่อค้าทั้งหลายก็สามารถทำได้แล้ว

ดูเหมือนว่า คนจีนถนัดจะเป็นพ่อค้าขนาดเล็กมาแต่กำเนิด กิจการแบบครอบครัวเป็นจำนวนมากที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ แต่หาเงินได้เพียงพอค่าใช้จ่ายเท่านั้น ทั้งต้องทนต่ออารมณ์ลูกค้าทั้งต้องดูสีหน้าของลูกจ้าง พอถึงสิ้นเดือนต้องเตรียมเงินจ่ายค่าจ้างแบบนี้ สู้เป็นลูกจ้างกินเงินเดือนธรรมดาไม่ได้
ข้อแตกต่างสำคัญระหว่างพ่อค้าย่อยกับลูกจ้าง ไม่ได้อยู่ที่ว่า สามารถหาเงินได้เท่าไหร่ในแต่ละวัน แต่อยู่ที่ว่าในที่สุด จะเหลือกำไรอยู่เท่าไหร่ "ลูกจ้างไม่มีวันได้เงยหน้าอ้าปาก นอกจากจะทำการทุจริตหรือคอรัปชั่น แต่ถึงอย่างไรก็ไม่มีโอกาสเจริญรุ่งเรืองเท่าพ่อค้า จะหาเงินได้แค่ไหนก็รวยไม่เท่าไหร่ พ่อค้าย่อยมีโอกาสรวยได้มากกว่า

ทั้งๆ ที่รู้ดีว่า ในพันคนหมื่นคนอาจไม่มีเศรษฐีเลยสักคน แต่พ่อค้าจะมาท้อถอย ละความทะเยอทะยานที่จะเป็นเศรษฐีไม่ได้ มิฉะนั้นแล้ว จะมาทำการค้าเพื่ออะไรกันเล่า พ่อค้าไม่ควรย่ำอยู่กับที่ เพราะนอกจากจะซังกะตายแล้ว ความคิดก็ล้าสมัยด้วย พ่อค้าย่อยจะต้องก้าวหน้า จะต้องพยายามเป็นฝ่ายรุก แต่ถ้ายังเป็นมหาเศรษฐีไม่ได้ก็คงเป็นเพราะฟ้าลิขิต นี่แหละคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า "แล้วแต่สวรรค์จะโปรด"

พ่อค้าที่มีความทะเยอทะยาน ประการแรกจะต้องไม่ดำเนินกิจการประเภทที่ไม่สามารถขยายต่อไปได้ และที่สำคัญไม่ควรผูกมัดกิจการให้แคระแกร็น หลายคนคิดว่าการเป็นช่างสระผมไม่มีอนาคต แต่ดูอย่างกิจการของวิดาล ซาซอง ที่ปัจจุบันมีสาขาอยู่ทั่วโลก นี่เป็นผลแห่งความทะเยอทะยาน ความทะเยอทะยานเป็นเงื่อนไขสำคัญในการก้าวไปสู่ความเป็นมหาเศรษฐี ส่วนโชคชะตานั้นเป็นเงื่อนไขรอง
บางคนเห็นว่าเงินมิใช่ทุกสิ่งทุกอย่าง เหนื่อยยากไปเพื่ออะไรเล่า คุณคงเห็นว่าคนที่มีความคิดอย่างนี้คงมองโลกได้ทะลุปรุโปร่งและอยู่เหนือผู้อื่นดังที่พระพุทธเจ้าทรงเรียกว่า "อนัตตา" แต่คนที่มีความคิดเช่นนี้ แม้ในสังคมธรรมดาก็ยากจะอยู่รอดแล้ว ชีวิตคนเราก็เหมือนกับการละเล่น ในเมื่อรู้ดีว่าเป็นการละเล่นก็จงตั้งใจเล่นให้ดี ชีวิตคนเหมือนความฝัน ขอฝันดีสักครั้งจะเป็นไรไป ขอเพียงไม่ลุ่มหลงบูชาในเงินทอง ไม่ละโมบในทรัพย์สิน ก็ไม่เห็นเสียหายอะไรเลย พ่อค้าย่อยเป็นผู้ที่สมัครใจทุ่มตัวลงเล่นเกมเงินเกมทองนี้เอง ไม่มีผู้ใดบังคับ ฉะนั้น จงเล่นให้ดีเถิด ชีวิตของพ่อค้าเป็นชีวิตของการต่อสู้ และการต่อสู้นั้นมีทั้งความสนุกสนานเพลิดเพลินและมีเนื้อหาสาระ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น