วันอังคารที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2556

ทำธุรกิจ-ห้ามละทิ้งกลางคัน

ทำธุรกิจ-ห้ามละทิ้งกลางคัน

ผมได้ย้ำหลายครั้งแล้วว่าพ่อค้าไม่ควรอนุรักษ์นิยม ล้มแล้วต้องเลิกเพื่อรักษากำลังวางแผนรุกใหม่ แต่กิจการใหญ่ๆ ที่ประสบความสำเร็จโดยมากในตอนแรกจะประสบปัญหา เมื่อผ่านไปหนทางก็ราบรื่น แต่หากพ่อค้าย่อยท้อถอยล้มเลิกเสียแต่ยังไม่ลงมือเริ่มทำ ก็ยากที่จะมีโอกาสเริ่มต้นใหม่

เมื่อไหร่ควรจะเลิก เมื่อไรควรจำทำต่อ ตัวตัดสินที่สำคัญที่สุดคือปริมาณการค้า หากเป็นไปตามคาดหรือดีเกินคาด สิ่งที่อยู่เบื้องหน้าคือความสำเร็จ แม้จะต้องจำนำกางเกงก็ต้องทำต่อไป แต่หากปริมาณการค้าผิดคาด จะเป็นเพราะความคิดเกี่ยวกับการค้าผิดไป หรือปฏิบัติผิดวิธี ก็ยังอาจแก้ไขได้ แต่ถ้าความคิดผิดก็เปลี่ยนความคิดเสีย แต่ไม่ใช่เปลี่ยนกิจการ

ตัวอย่างของการเปลี่ยนความคิด เช่น ร้านเคนตั๊กกี้ เมื่อเริ่มเปิดกิจการใหม่ๆ ก็เหมือนกับร้านอื่นๆ ที่มีรายการอาหารมากมาย ผสมปนเป คนอื่นมี เราก็มี แต่ไม่นานเจ้าของร้านก็รู้ว่า ลูกค้าชอบไก่รสชาติไหนมากที่สุด ก็เลยทำขายแต่รสชาตินั้น ก็ประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน

ผมเห็นกับตาว่า บริษัทที่ก้าวหน้าเร็วที่สุดแห่งหนึ่ง มีอัตราการขยายตัวของงาน 30% ต่อปี และคาดว่าความก้าวหน้าในอัตรานี้ จะรักษาไว้ได้ถึง 10 ปี ตอนก่อตั้งใหม่ๆ บริษัทนี้ก็เกือบล้มละลาย ไม่มีเครดิต แต่ก็ผ่านพ้นมาได้จนถึงทุกวันนี้

อุปสรรคที่บริษัทดังกล่าวได้รับในตอนแรก บริษัทเล็กๆ ก็ประสบเช่นกัน กว่าจะอยู่รอดและประสบความสำเร็จมาได้ แต่ละบริษัทล้วนต้องตะเกียกตะกายผ่านด่านนี้มาแล้วทั้งนั้น บางบริษัทที่พื้นฐานไม่มั่นคงก็ไปไม่รอด ล้มเสียก่อนจะถึงเส้นชัยบ้างก็ค่อยๆ ไต่ขึ้นไป แต่อย่างไรก็ต้องผ่านด่านนี้ไปโดยเร็วที่สุด กิจการที่ขยายตัวรวดเร็ว อาจมีปัญหาในเรื่องการหมุนเงิน ยามกิจการระยะสั้นอยู่ในภาวะซบเซา อันตรายก็เริ่มปรากฏ ทำอย่างไรจึงจะผ่านไปสู่ความสำเร็จได้ ต้องประคับประคองระมัดระวังให้ดี

การประคองกิจการให้อยู่รอด ต้องมีเงินสนับสนุน เรื่องนี้ธนาคารช่วยไม่ได้มาก ในช่วงระยะนี้ พ่อค้าจะต้องการเงินทุนระยะยาวมากกว่า ประจวบกับเป็นระยะที่พ่อค้าไม่มีอำนาจการต่อรอง ในอเมริกา รัฐบาลมีกองทุนพิเศษ สำหรับอุตสาหกรรมเล็ก เรียกว่า ผู้ลงทุนเสี่ยง (Venture Capitalists) ในเมืองไทยยังไม่มีเงินทุนประเภทนี้ ช่วงเวลาเช่นนี้จะหาวิธีการที่ดีที่สุดไปหาผู้สนับสนุนได้อย่างไร ก็ต้องอาศัยโชคประคับประคองไว้จนถึงที่สุดเพราะหากล้มแล้ว แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น