วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2556

ขอคิดเรื่องเรียนต่อหรือทำงานด้วยคน

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
=====>>>>      พอใกล้วันสอบเข้ามหาวิทยาลัยของแต่ละปี


สิ่งที่พบเจอ นอกจากจะถามว่า ........เรียนอะไรดี ........จบแล้วทำอะไร .......รวยไหม
แต่ไม่ค่อยได้เจอ คำถามว่า
...............จะทำอย่างไร ...............จะเตรียมตัวอย่างไร ................จะทำใจอย่างไร
<<<<<         >>>>>>
พอดีไปพบเด็กคนหนึ่ง ที่เขาก็เรียนและเข้ามหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้วเช่นกัน
ผมพบเขาในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เขาทำงานเป็นพนักงานขายหน้าร้าน
ได้พูดคุยกัน เพราะเคยรู้จักกันมานาน และช่วงที่เขาสอบเข้ามหาวิทยาลัย
ก็เคยถามไถ่ว่า สอบได้ที่ไหนบ้าง >>>>>>>>>>>>
ท้ายที่สุด ก็สอบที่ไหนไม่ติด แต่เขาก็คิดได้ว่า มันมีทางเดียวที่จะได้ปริญญา
โดยเรียนที่ มหาวิทยาลัยประจำจังหวัด (ราชภัฎ) แล้วหาเวลาว่างไปทำงานเสริม
********   ผมดีใจมากๆ ที่เห็นเด็กไทยรุ่นใหม่ มีความคิดแบบนี้
******************    อย่าไปท้อเลยครับ


ตรงกันข้ามกับเด็กอีกคนที่ผมพบมาราวๆ 3 ปีแล้ว
เขาสอบติดมหาวิทยาลัยเช่นกัน แต่ก็เรียนไม่ไหว ออกแค่ปี 1
เพื่อนๆ และคนอื่นๆ แนะนำว่า หากเตรียมสอบใหม่ ก็ต้องคิดและเริ่มทำได้แล้ว
แต่เขากลับใช้เวลาที่มี ไปกับการเล่น หารุ่นน้องโรงเรียนเก่า เผาเวลาไปวันๆ
เมื่อผลสอบในปีที่ผ่านมา ไม่ได้เลย
ก็ถามเขาว่า จะเดินอย่างไรต่อไป เพราะบางคนก็แนะนำให้เขาหางานทำ
จะได้ไม่เหงาหรือคิดมาก และอ่านหนังสือหากอยากสอบใหม่
หรือจะเรียนมสธ. หรือ รามฯ แต่เขาบอกว่า เขาทำไม่ได้ อายเพื่อน
เนื่องจากเคยเป็นนักเรียนเรียนดีมาก่อน (ซึ่งต่างกับคนแรกที่เล่ามา)
ผมอยากฝากแนวคิดนี้แก่นักเรียนรุ่นปัจจุบันว่า
ทางเดินชีวิตเรา ไม่ได้เหลือแค่ทางเดียว คือประตูสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เราสอบๆ กัน
เราเลือกทางอื่นๆ ได้ หากเราไม่ยึดติดมากเกินไป
พ่อแม่และผู้ปกครอง ก็มีส่วนผลักดัน ทำให้เด็กๆ เครียด และ เข้าใจผิดได้มากๆ
****************************


ผมเคยถามเจ้าหน้าที่ร้าน 7-11 ว่าจบ ม.6 แล้วมาทำงานที่นี่ คิดอย่างไร
เขาตอบผมว่า หัวไม่ดี เรียนไปก็คงไม่รอด ทำงานซะดีกว่า ใกล้บ้านด้วย
เมื่อวันก่อนได้พบเขา เขาก็ได้คุยให้ฟังว่า ปีใหม่ที่ผ่านมา เพื่อนๆ กลับมาเที่ยวบ้าน
แต่ละคนไปเรียนที่โน่น ที่นั่น แต่กลับมาบ้าน เพื่อมาขอเงินพ่อแม่
แต่เขาเอง เขาผ่อนรถมอเตอร์ไซค์ได้เรียบร้อย หาเงินซื้อข้าวของเครื่องใช้ให้พ่อแม่
หาข้าวปลาอาหารให้พ่อแม่ ไม่ต้องเดือดร้อนและลำบาก
ที่สำคัญส่งน้องๆ ได้ร่ำเรียนต่อไป โดยแบ่งเบาภาระพ่อแม่ด้วย
*****************
ผมเล่าเรื่องต่างๆ มานี้ ก็อยากฝากบอกเด็กๆ ที่กำลังคิดว่า ชีวิตจะไปอย่างไรดี
ได้เป็นทางเลือก ไม่ใช่เป็นทางบังคับให้เลือก ชีวิตคนเรา คิดให้รอบคอบนะครับ
บางคน พ่อแม่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างเพื่อลูก จนลูกลืมไปว่าเขาเป็นพ่อแม่
แต่กลับเข้าใจว่า มันเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ ที่ต้องหาในสิ่งที่ฉันต้องการ
*******************
เลยนึกถึงช่วงก่อนปีใหม่ มีรายการทีวีสัมภาษณ์นักเรียนใน กทม. ถามว่าอยากได้อะไร
เด็กคนหนึ่งตอบว่า "หนูอยากได้ โทรศัพท์เครื่องใหม่ (เมื่อก่อนจะเรียกว่ามือถือ)"
นักข่าวถามว่า "ทำไมหล่ะ"
เด็กตอบว่า "หนูอยากได้เครื่องที่มันเล่นได้เยอะๆ และไม่ OUT"
"เครื่องที่ใช้อยู่เนี่ย มัน OUT แล้ว ...เล่นไม่ได้เยอะ ที่สำคัญไม่ UP"
================
คิดกันให้ดีดีนะครับ ...ใจ ......ความคิด ......ชีวิต ......อนาคต

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น