วันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ

ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่าเชิงดอยสุเทพ
CHOENGDOISUTHEP WILDLIFE AND NATURE EDUCATION CENTER
กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม







ก่อนถึงประตูทางเข้า จะมีลานที่ยังไม่เสร็จเรียบร้อย พร้อมองค์พระ



 เข้ามาแล้วข้างลานจอดรถ จะมีกรงสำหรับสัตว์ปีก


เจ้าไอซ์ เมื่อก่อนเดินไปมาในป่า แต่ระยะหลังมายืนข้างๆ ป้อมต้อนรับนักท่องเที่ยว




ทางเดินเท้าเข้าชมป่า หรือจะขี่มอเตอร์ไซค์เข้าชมก็ได้ แต่ไปได้แค่วัดร้างเท่านั้น






แอบส่องฝูงกวาง ละมั่ง



 ไม้แผ่นใหญ่มากๆ





สถานที่นี้อยู่บนเส้นทางที่เราสามารถเดินทางไปวัดอุโมงค์, บ้านข้างวัด, วัดร่ำเปิง เป็นการชมธรรมชาติที่เราสามารถเข้าใกล้ชิดสัตว์ได้ในระยะเผาขนกันเลยทีเดียว เว้นเสียแต่สัตว์ปีกที่มีโอกาสบินหายไปได้ ก็จะอยู่ในกรง สัตว์บางประเภทจะถูกแบ่งโซนการอยู่อาศัยกึ่งกำหนดพื้นที่ แต่ก็ยังอยู่สภาพป่าเปิดให้เราเข้าชมได้
โอกาสสัมผัสสัตว์ต่างๆ มีมากครับ แต่เจ้าหน้าที่จะแนะนำว่า กรุณาอย่าสัมผัสสัตว์โดยตรง เพราะอาจเกิดอันตรายได้















สิ่งที่เราสามารถสัมผัสได้ในบรรยากาศการมาเยี่ยมชมที่ศูนย์ฯ นี้ ก็คือ การให้อาหารสัตว์
เราสามารถหาซื้อผักสด ผลไม้สด ซึ่งเราสามารถหาซื้อได้จากตลาดใกล้ๆ หรือจากที่ไหนก็ได้ แล้วสามารถหอบหิ้วเข้าไปให้อาหารสัตว์ได้ แต่ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ก็ให้คำแนะนำว่า ควรระมัดระวังและไม่ใกล้ชิดสัตว์จนน่าจะเกิดอันตรายได้ เพราะสัตว์อาจเดินเข้ามาใช้เขาเข้าเบียดเราได้ (เขาสัตว์คมมากๆ ครับ)
อีกทางหนึ่งก็คือ เราอาจขอติดรถขนผักที่เจ้าหน้าที่ขนมาให้อาหารสัตว์ เพื่อไปชมสัตว์ใกล้ๆ แล้วเราอาจสมทบผักสด หรือ ผลไม้สด ไปร่วมด้วยกับรถนี้ก็ได้ครับ
ในการขนผักสดนี้ ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ พบว่าแต่ละคันรถกระบะ (เก่าๆ) ราคาเที่ยวละ 200 บาท โดยรับซื้อมาจากตลาดวโรรส (กาดหลวง) ซึ่งในการนี้ ก็อยากเป็นกระบอกเสียงให้ผู้สนใจทั้งหลาย เข้าร่วมทุนในการดูแลสัตว์ได้ ณ ศูนย์ฯ แห่งนี้ได้เลยครับ

...... วัดพระธาตุแสงจันทร์ (ร้าง)
เป็นหนึ่งในวัดร้างอรัญญิกนอกเมืองเชียงใหม่ด้านตะวันตก
ประกอบด้วย เจดีย์ประธานซึ่งเป็นเจดีย์ทรงระฆังบนฐานแปดเหลี่ยม
มีวิหารตั้งอยู่ทางด้านทิศเหนือของเจดีย์ประธาน วิหารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก
ทางทิศเหนือเป็นอาคารขนาดเล็ก 2 หลัง มีกำแพงกั้นกลางระหว่างพื้นที่แต่ละส่วน
และปรากฏกำแพงแก้วล้อมรอบอาคารทั้งหมด ประตูทางเข้าอยู่ทิศตะวันออก
ด้วยพื้นที่ของวัดพระธาตุแสงจันทร์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ถูกจำกัดลักษณะสภาพภูมิประเทศ
แผนผังของวัดจึงไม่เป็นไปตามรูปแบบแผนผังของวัดในล้านนาโดยทั่วไป ที่วิหารจะตั้งอยู่ทางด้านทิศตะวันออกของเจดีย์ประธาน

...... จากการดำเนินงานทางโบราณคดี วัดพระธาตุแสงจันทร์ (ร้าง)
สันนิษฐานว่าโบราณสถานแห่งนี้น่าจะมีอายุอยู่ในช่วงกลางพุทธศตวรรษที่ 21 ลงมา
และน่าจะมีการปฏิสังขรณ์เพิ่มเติมในช่วงพุทธศตวรรษที่ 22-24 เป็นต้นมา


















วัวแดง (Banteng)
..........ลักษณะคล้ายวัวบ้าน แต่มีรูปร่างใหญ่กว่า ขนตามลำตัวมีสีน้ำตาลแดงจนถึงน้ำตาลดำในตัวที่อายุมาก และมีหนังห้อยลงมาใต้คอ มีสีขาวที่วงรอบตา รอบปาก รอบจมูก และรูปใบโพธิ์ที่ก้น ขาทั้งสีข้างมีสีขาวตั้งแต่หัวเข่าจนถึงกีบตีน หากินเป็นฝูง ในฝูงมีตัวผู้ที่เป็นจ่าฝูง ตัวเมียและตัวผู้ที่ยังไม่โตเต็มวัย ส่วนตัวผู้ที่โตเต็มวัยจะออกหากินตามลำพังและจะกลับมาที่ฝูงในฤดูผสมพันธุ์ ชอบกินหญ้ามากกว่าใบไม้ และกินโป่งเป็นประจำ ตั้งท้องนาน 270-300 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว อายุยืน 20-30 ปี ถิ่นอาศัย ป่าโปร่ง ทุ่งหญ้า ป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง
















เนื้อทราย (Hog deer)
.........รูปร่างคล้ายกวางป่า แต่มีขนาดลำตัวเล็กกว่าและสีของลำตัวค่อนข้างจะมีหลายรูปแบบ โดยทั่วไปมีสีน้ำตาลจนถึงน้ำตาลเข้ม มีเขาเฉพาะตัวผู้ ลักษณะเหมือนเขากวางป่าแต่เล็กกว่า สีเขาของเนื้อทรายจะแตกต่างกันไปตามฤดูกาล ออกหากินเวลากลางคืน ชอบกินหญ้ามากกว่าใบไม้ ตั้งท้องนาน 240 วัน ออกลูกครั้งละ 1 ตัว ถิ่นอาศัย พบบริเวณป่าที่ราบลุ่ม ริมลำธาร ในอดีตพบชุกชุมบริเวณที่ราบลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา






ไก่ฟ้าหลังขาว (จัดอยู่ในสัตว์ป่าคุ้มครอง)
..........ไก่ฟ้าหลังขาวเป็นนกขนาดกลาง-ใหญ่ ความยาวจากปลายปากถึงปลายหาง ประมาณ 50-125 เซนติเมตร ในประเทศไทย พบ 2 ชนิดย่อยคือ ไก่ฟ้าหลังขาวและไก่ฟ้าหลังขาวจันทรบูร ตัวผู้มีขนาดหงอนบนหัวสีน้ำเงินแก่ยาวคลุมท้ายทอย ใบหน้ามีแผ่นหนังสีแดง ขนตอนบนของลำตัวส่วนใหญ่และปีกสีขาววาวเหมือนเงิน มีลายเป็นเส้นบางๆ สีดำเป็นรูปตัว V อยู่บนขน ตัวเมียมีขนหงอนบนหัวสีน้ำเงินแก่ แต่มีเพียงเล็กน้อยพอสังเกตเห็นเท่านั้น ขนาดตามตัวส่วนใหญ่สีน้ำตาลคล้ำ แข้งสีแดง ไม่มีเดือย
การสืบพันธุ์- เริ่มผสมพันธุ์ได้เมื่ออายุ 3 ปี วางไข่ครั้งละ 4-6 ฟอง ระยะเวลาในการฟักไข่นาน 23-24 วัน โดยตัวเมียฟักไข่เพียงตัวเดียว
อาหาร-อาหารได้แก่ เมล็ดพืช ดอกหญ้า ใบไม้ แมลง ตัวหนอน ไข่มด
ถิ่นอาศัย-อาศัยตามป่าเบญจพรรณ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น