ถ้าต้องมีการผ่าตัด ซ่อมแซมเกี่ยวกับอวัยวะสืบพันธุ์แล้วละก็
ผู้หญิงอย่างเรา ๆ คงต้องมีวิธีดูแลเป็นพิเศษ ยิ่งถ้าต้องมีเรื่อง "อย่างว่า"
หลังผ่าตัดด้วยแล้ว ขอแนะนำให้เก็บข้อมูลนี้ไว้ใต้หมอน เป็นคู่มือ "ยามนั้น" ได้เลย....
< < < "ตรงนั้น" ของเธอช่างบอบบาง? > > >
เพราะอวัยวะระบบสืบพันธุ์ของผู้หญิงเป็นอะไรที่ดูเหมือนจะบอบบาง
เป็นโน่นเป็นนี่ง่ายไม่ค่อยทนทาน แต่ถึงเวลาต้องเจออะไรหนัก ๆ
ต้องอุ้มท้อง ต้องเจ็บท้องคลอด ต้องให้เบ่งเด็กตัวเบ้อเริ่มผ่านออกมา
ทางช่องคลอด อวัยวะสืบพันธุ์ของผู้หญิงเราก็สามารถทำได้
แต่ในความแข็งแกร่งก็มีความบอกบางแอบซ่อนอยู่
อวัยวะของผู้หญิงเป็นสิ่งที่ต้องหมั่นดูแลรักษา ต้องเข้ารับการตรวจ
อยู่เป็นประจำ หรือถึงแม้จะตรวจอยู่เป็นประจำก็อาจมีปัญหาเกิดขึ้น
ต้องกินยา เหน็บยา หรือบางทีต้องผ่าตัดไปโน่น
เกิดเป็นผู้หญิงมีของสำคัญติดตัวมา ก็ต้องเป็นภาระหน้าที่
ที่ต้องห่วงหวงดูแลตั้งแต่เริ่มเป็นสาว จนแต่งงานมีสามีก็ต้องดูแล
อย่าให้มันเจ็บป่วยเป็นโน่นเป็นนี่ พอมีลูกก็ต้องคอยกังวลดูแล
อย่าให้มันยืดหย่อนยาน
พอเริ่มแก่ก็ต้องคอยหมั่นตรวจอย่าให้เป็นเนื้องอก เนื้อร้ายขึ้นมา
...เห็นมั้ยล่ะครับ เกิดเป็นผู้หญิงนี่ลำบากเหมือนกันนะ
ทีผู้ชายไม่เห็นต้องดูแลอะไรมาก แถมยังทนทานไม่ค่อยเจ็บไม่ค่อยป่วย
แล้วยังมีโอกาสเป็นเนื้องอกเนื้อร้ายน้อยกว่ามาก
ดูเหมือนธรรมชาติไม่ค่อยจะยุติธรรมเลยเนอะ
แต่เมื่อเลือกเกิดไม่ได้ แถมคุณสามีก็นอนร้องหง่าว ๆ อยู่ข้าง ๆ
ทุกคืนเป็นประจำ เห็นทีต้องจัดการแล้วล่ะ
เอาวิธีที่ดีกว่าทุบหัวพ่อเจ้าประคุณหมกใต้เตียงนะครับ
< < < เรื่องอย่างว่า ก่อนและหลังตรวจภายใน > > >
โดยปกติควรงดการมีเพศสัมพันธ์ก่อนไปตรวจภายในอย่างน้อย 2 วันครับ
เพราะเวลาตรวจคุณหมอต้องตรวจดูทั้งหมด ตั้งแต่ปากช่องคลอด
ดูว่ามีแผลมีรอยบวมรอยแดงรอยอักเสบอะไรหรือเปล่า
ดูตกขาวภายในช่องคลอดว่ามีสีมีกลิ่นผิดปกติหรือไม่
ดูปากมดลูกว่าเป็นแผลหรือเปล่า
หากมีเพศสัมพันธ์กันก่อนแล้วไปตรวจก็ต้องเจออะไรที่มันไม่ปกติเต็มไปหมด
ตั้งแต่ปากช่องคลอดแดง แถมบางทีเป็นรอยแผลถลอกอีกต่างหาก
พอจะตรวจดูตกขาวว่ามีเชื้อโรคผิดปกติหรือเปล่า ที่ไหนได้เจอแต่ตัว
อสุจิเต็มไปหมด โดยเฉพาะในรายที่มาตรวจมะเร็งปากมดลูก
หมอจะขูดเซลล์แถวปากมดลูกส่งไปห้องแล็บ ห้องแล็บคงตกใจ
รีบโทรกลับมาบอกว่าไม่เห็นมะเร็งซักตัว เจอแต่อสุจิเป็นล้านเลย !!!
หลังจากตรวจภายใน ตรวจหามะเร็งเสร็จแล้ว
ทางที่ดีควรงดมีเพศสัมพันธ์อีกวันสองวันจะดีกว่า
เพราะตอนตรวจหมอจะขูดปากมดลูกไปตรวจซึ่งอาจเกิดเป็นรอยถลอกได้
หากไปมีเพศสัมพันธ์เลยก็อาจมีเลือดออกหรือเกิดการอักเสบตามมา ....
ให้สามีอดใจไว้สองสามวันคงไม่ปวดไม่คัดมากหรอกครับ
< < < ช่วงใส่ห่วง ต้องงด "เรื่องอย่างว่า" > > >
ดู ๆ ไปแล้วการตรวจภายในนับเป็นการตรวจที่ไม่หนักหนาสักเท่าไหร่
แต่หากต้องทำอะไรเยอะกว่านี้ เช่น ใส่ห่วงคุมกำเนิด
ก็ควรจะงดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากตอนใส่ห่วง
ต้องใช้เครื่องมือจับปากมดลูกดึงซึ่งจะเกิดเป็นรอยแผลนิดหน่อย
แล้วตอนใส่ห่วงเข้าไปก็มักครูดโดนเยื่อบุผิวมดลูกถลอกอีกนิดหน่อย
หากคุณสามีเกิดอยากลองของใหม่ ตอนนี้อาจทำให้เจ็บท้องน้อย
หรือเกิดการอักเสบตามมาได้ คงต้องให้อดเปรี้ยวไว้กินหวานสัก 2 สัปดาห์
หลังจากใส่ห่วงแล้วคุณหมอมักจะนัดตรวจห่วงอีกครั้งใน 1 เดือนหลังใส่ห่วง
เพื่อดูว่าห่วงมันเลื่อนไปผิดที่ผิดทางหรือเปล่า มีอาการเจ็บมั้ย
ถึงตอนนี้หมอมักจะบอกว่าต้องยุ่งกันมาก่อนนะ ยิ่งบ่อย ๆ ยิ่งดี
เพราะหมอจะดูว่าเมื่อใส่ห่วงแล้วเกิดการแทกกระเทือนตามปกติ
ห่วงต้องไม่เลื่อน หากเลื่อนลงมาจะทำให้เกิดการตั้งครรภ์ทั้ง ๆ ที่มีห่วงได้
แล้วก็ต้องดูด้วยว่าใส่ห่วงแล้วเวลามีอะไรกันมีอาการผิดปกติมั้ย
เพราะมีหลายคนเหมือนกันที่คุณสามีบ่นว่าเหมือนมีสายไนล่อนแข็ง ๆ
มาทิ่มโดนปลายน้องหนูของเขา ที่จริงก็น่าจะจั๊กจี้ดีนะครับ
แต่ถ้าเกิดรำคาญก็มีวิธีแก้ครับ
แค่เก็บสายห่วงพับไปข้างหลังให้เรียบร้อยก็คงไม่รู้สึกแล้วล่ะ
< < < ขูดมดลูก ก็ต้องงด...เช่นกัน > > >
ผู้หญิงเราหากอยู่สุขสบายดีก็คงไม่อยากให้มดลูกมาเจ็บตัวหรอกครับ
แต่ถ้ามีเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด หรือมีการแท้งเกิดขึ้น
ซึ่งทั้งสองกรณีต้องรักษากันด้วยการขูดมดลูก แค่ฟังก็เสียวท้องน้อยไปหมดแล้ว
หลังจากขูดมดลูกไปแล้วก็ควรงดมีเพศสัมพันธ์อีกอย่างน้อย 2 สัปดาห์
ให้มดลูกลาป่วยไปก่อนครับ เพราะโดนขูดมดลูกมาไม่ใช่เรื่องเล็ก
โดนขูดข้างในซะเกลี้ยง เลือดออกซิบ ๆ แถมมีแผลถลอกอยู่ข้างในเต็มไปหมด
แบบนี้มดลูกคงเจ็บระบบไปอีกหลายวัน การมีเพศสัมพันธ์เร็วไป
จะทำให้ฝ่ายหญิงเจ็บระบมข้างในมากขึ้น และแผลจากการขูด
ที่ยังไม่หายดีก็จะเกิดการอักเสบได้ง่าย...
ให้มดลูกได้พักฟื้นสักสองสัปดาห์ เดี๋ยวก็กลับมาทำหน้าที่ได้เหมือนเดิมแล้วล่ะครับ
< < < ผ่าตัด ก็งดด้วย > > >
หากโชคร้ายขึ้นมาอีกหน่อยคราวนี้ถือเป็นการยกเครื่องซ่อมใหญ่กันเลย
ถ้ามีความผิดปกติที่เหลือบ่ากว่าแรง กินยารักษาไม่ได้จำเป็นต้องผ่าตัด
ก็ต้องหยุดพักกันยาว การผ่าตัดอาจจะแค่ตัดซีสต์ เลาะพังผืด
หรืออาจจำเป็นต้องตัดทิ้งหมดทั้งพวง มดลูกก็ไม่มีเหลือ ก็เป็นไปได้ครับ
หากผ่าตัดทางหน้าท้องเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรงดมีเพศสัมพันธ์ประมาณ 1 เดือนขึ้นไป
นอกจากนั้นใน 3 เดือนแรกให้ฝ่ายสามีเป็นผู้เหนื่อยแต่เพียงผู้เดียว
ผู้หญิงไม่ต้องช่วยออกแรงนะครับ ที่ต้องให้ผู้หญิงออมแรงไว้ก่อน
ก็เพราะเวลาผ่าท้องไม่ว่าจะผ่าตามแนวยาวหรือผ่าตามแนวขวาง
พอผ่าเสร็จแล้วต้องเย็บแผลกลับเหมือนเก่า แล้วเย็บก็ไม่ได้แค่ชั้นเดียว
ต้องเย็บตั้งแต่ตัวมดลูกถึงผิวหนังหน้าท้องบางทีเย็บกันตั้ง 8 ชั้น
แต่ละชั้นต้องมีปมหัวปมท้าย แต่ละปมก็ต้องผูกสามทีสี่ที
ไม่ได้ผูกสองทีเหมือนผูกเชือกกางเกงนะครับ
ไหมที่เย็บทั้งหมดมักจะเป็นไหมละลาย บางชั้นก็เส้นเล็กนิดเดียว
แต่ชั้นที่ต้องการความแข็งแรงมาก ๆ ก็เส้นใหญ่
แต่รวมแล้วไหมทั้งหมดจะละลายหมดเกลี้ยงในเวลา 3 เดือน
นั่นแปลว่าภายในสามเดือนแรกหากฝ่ายหญิงอยากจะออกแรงบ้าง
อาจจะทำให้เจ็บระบมแผลได้ ก็ตอนมี "เรื่องอย่างว่า" กัน
มันต้องขยับไปขยับมาตลอดนี่ครับ แผลที่ยังไม่หายดี ปมที่ยังละลายไม่หมด
ก็จะเสียดสีอยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ สำเร็จเสร็จกิจแล้วระบมหน้าท้องไปหมด
แต่รับรองไม่เคยเจอยุ่งกันจนแผลแตกไส้ทะลักเลยนะครับ
หากอยากออกแรงเองบ้างก็ได้ แต่ถ้าเริ่มรู้สึกเจ็บก็เปลี่ยนมานอนเล่นข้างล่างดีกว่า
***************************************************
น.พ.อานนท์ เรืองอุตมานันท์
***************************************************
รบกวนถามค่ะผ่าตัดมดลูกหลังมีเพศสัมพันธุ์กับสามีเขาเจ็บและมีรอยถลอกทุกครั้งเป็นเพราะอะไรค่ะ..ต้องทำยังไงค่ะ..ผ่าตัดได้8เดือนแล้วค่ะ
ตอบลบ