เดี๋ยวนี้กระแสการบริโภคอาหารเพื่อสุขภาพกำลังมาแรง ทำให้อาหารเจ อาหารมังสวิรัติ รวมถึงอาหารประเภท raw food ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากกรรมวิธีในการปรุงที่ต้องหลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ ลดปริมาณไขมัน และเน้นการใช้ผัก-ผลไม้เป็นหลักแล้ว เราจะพบว่า "เห็ด" ถือเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่สำคัญในการประกอบอาหารเพื่อสุขภาพทุกประเภท
เห็ดเป็นแหล่งโปรตีนจากธรรมชาติ ที่มีวิวัฒนาการมาจากการประสานเส้นใยจำนวนมากของเชื้อราชั้นสูง และถึงแม้เห็ดจะขาดกรดอะมิโนบางตัว แต่รสชาติและเนื้อสัมผัสของเห็ดนั้นไม่เป็นรองเนื้อสัตว์อย่างแน่นอน ที่สำคัญเห็ดยังให้คุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยลดอัตราความเสี่ยงจากโรคร้ายต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง เบาหวาน อัลไซเมอร์ หลอดเลือดหัวใจอุดตันและความดันโลหิตสูงได้อีกด้วย
เห็ดเป็นอาหารประเภทผักที่ปราศจากไขมันมีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ ทั้งยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์นานาชนิด ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโนกลูตามิคที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้รสอาหารของลิ้นให้ไวกว่าปกติ และทำให้เห็ดมีรสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์ วิตามิน โดยเฉพาะวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร เกลือแร่ เช่น ซิลิเนียม ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งและโรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โพแทสเซียมทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ รักษาสมดุลของน้ำในร่างกาย ควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่างๆ ทั้งยังลดความเสี่ยงในการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาต รวมถึง ทองแดง ที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของธาตุเหล็ก
นอกจากนี้เห็ดยังมีองค์ประกอบของพฤกษเคมีที่สำคัญชื่อว่า "โพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide)" ที่จะทำงานร่วมกับแมคโครฟากจ์ (macrophage) ซึ่งเป็นเซลล์คุ้มกันขนาดใหญ่ที่ออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อ เมื่อไปรวมกับโพลีแซคคาไรด์ที่บริเวณกระเพาะอาหารและนำส่งไปยังเซลล์คุ้มกันตัวอื่นๆ จะช่วยกระตุ้นวงจรการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย เพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติให้ทำหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้าสู่ร่างกาย รวมถึงไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเห็ดที่มีปริมาณสารโพลีแซคคาไรด์สูงก็ได้แก่ เห็ดหอมหรือเห็ดชิตาเกะ เห็ดนางรม เห็ดหูช้าง และเห็ดกระดุม เป็นต้น
นอกจากคุณค่าทางสารอาหารแล้วเห็ดยังมีสรรพคุณทางยาใช้รักษาโรคต่างๆ ได้มากมาย เช่น ช่วยควบคุมการทำงานของอวัยวะสำคัญต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ปอด ตับ และระบบไหลเวียนของโลหิต ชาวจีนถึงขั้นจัดเห็ดเป็นยาเย็น เพราะมีสรรพคุณครอบจักรวาลที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย เนื่องจากพวกเขาเชื่อว่าเห็ดสามารถช่วยลดไข้ เพิ่มพลังชีวิต ดับร้อนใน แก้ช้ำใน บำรุงร่างกาย ลดระดับน้ำตาลและคอเลสเตอรอลในหลอดเลือด ลดความดัน ขับปัสสาวะคลายหงุดหงิด บำรุงเซลล์ประสาท รักษาอาการอัลไซเมอร์ และที่สำคัญยังยับยั้งการเติบโตของเซลล์มะเร็งได้อีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น