ปัจจุบัน น้ำดื่มกระป๋องหนึ่งราคาเท่าไหร่ นั่นต้องดูว่า คุณซื้อที่ไหน โดยมากคงราวๆ ไม่ต่ำกว่า 7 บาท แท้จริงต้นทุน น้ำอัดลมอย่างเดียว ราคาเท่าไหร่ ผมว่าคงไม่เกิน 1.50 บาท แน่ ที่เหลือก็เป็นค่าโฆษณา ค่าบรรจุ - ขนส่ง และกำไร ถามเด็กเก็บขยะดูก็จะรู้ว่ากระป๋องน้ำอัดลมเก่าๆ ใบหนึ่งจะขายได้บาทหนึ่ง เราพอจะมองเห็นถึงต้นทุนของน้ำอัดลมกระป๋องได้แล้ว ซื้อมา 7.80 บาท เงินกว่าครึ่งเสียไปกับการบรรจุ
มีบางคนคิดว่า การบรรจุอย่างสวยงาม เป็นเรื่องฟุ่มเฟือย แต่น่าคิดที่ว่า ทำไมน้ำอัดลมกระป๋องยังเป็นที่นิยมและแพร่หลายมากกว่าน้ำอัดลมขวดมาก คำตอบก็คงจะรู้กันแล้ว คนสมัยนี้ชอบใช้เงินซื้อความสะดวกสบาย หากเห็นว่าเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยก็ไม่ซื้อน้ำอัดลมกระป๋อง หรือน้ำอัดลมขวด แต่สำหรับพ่อค้าย่อยแล้ว ความต้องการของผู้บริโภคเป็นสิ่งที่ต้องตอบสนอง ถูกหรือผิดเป็นอีกเรื่องหนึ่ง เราปฏิเสธไม่ได้ว่า ตลาดน้ำอัดลมขยายกว้างมาก เพราะความทันสมัยและสะดวกในการพกไป และการทิ้งนั่นเอง
นอกจากนั้น การบรรจุทำให้ง่ายต่อการพก เก็บและรักษาคุณภาพของสินค้า ผมไม่ชอบกล่องโฟมใส่อาหารมาก ทั้งที่เพิ่งจะมีเมื่อ 3 ปีมานี่เอง แต่ก็รู้สึกว่าในชีวิตประจำวันจะขาดมันไม่ได้เสียแล้ว
แท้จริงแล้ว พ่อค้าย่อยไม่ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องการบรรจุเท่าไรนัก บ่อยครั้งที่จะชี้ว่าบริษัทนั้นจะใหญ่หรือเล็ก สินค้าจะราคาแพงหรือถูก ก็แบ่งแยกกันที่คำว่าบรรจุนี้เท่านั้น อย่าว่าแต่สินค้าเลย แม้แต่พนักงานบริษัทเล็กๆ ถ้าแต่งตัวไม่ดี ก็มีสิทธิ์ถูกเมินได้เช่นกัน
บริษัทจะใหญ่หรือเล็ก แท้จริงแล้วไม่มีใครรู้ และผู้บริโภคก็ไม่สนใจด้วย จึงไม่จำเป็นต้องตบแต่งออฟฟิศให้หรูหรา แต่สำหรับสิ่งที่จะออกสู่สายตาคนทั่วไป ต้องทำให้เรียบร้อย จะทำสินค้าตัวอย่าง ก็ต้องให้สวยสะดุดตา เขียนบอกราคาให้ชัดเจน ลูกค้ามาก็ต้องบริการอย่างเป็นมิตร ยินดีแก้ปัญหาให้ สินค้าที่ผลิตออกไป ต้องบรรจุให้สวยสะดุดตาคน เหมือนดังสาวที่สวยอยู่แล้ว ผัดหน้าทาลิปสติกอีกนิด ก็ดูดีขึ้นมาก แต่พ่อค้าย่อมมักจะไม่สนใจเรื่องพวกนี้ เอาแต่แต่งตัวโทรมๆ
จะว่าไปแล้ว บริษัทใหญ่ๆ มีส่วนแบ่งตลาดมากอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นต้องพิถีพิถันเรื่องความสวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้ามากเท่าไร แต่บริษัทใหญ่ๆ กลับเป็นผู้ชำนาญในเรื่องนี้ บริษัทเล็กๆ ที่ต้องพยายามดึงดูดลูกค้า กลับไม่ใส่ใจในเรื่องความเรียบร้อยสวยงามเอาเสียเลย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น