เพชรสังฆาต ความหวังป้องกันกระดูกพรุน สมานกระดูก
******** เมื่อพูดถึงเพชรสังฆาตแล้วคนส่วนใหญ่มักจะคิดถึงสรรพคุณในการรักษาโรคริดสีดวง เพราะมีการใช้มาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
โดยจะนำเพชรสังฆาตประมาณ 1 ข้อนิ้วมือของคนไข้ ใส่ในแตงกวา ลูกกล้วย หรือห่อด้วยมะขามเปียกก่อนกลืนลงไป เพื่อไม่ให้เพชรสังฆาตสัมผัสริมฝีปากโดยตรงเนื่องจากตัวเพชรสังฆาตมีสารแคลเซียมออกซาเลตที่ระคายเคืองต่อเยื่อบุ แต่เมื่อกลืนลงสู่กระเพาะแล้วจะถูกทำให้เป็นกลาง โดยกรดจะไปจับทำให้ไม่ระคายเคืองแต่อย่างใด
ดังนั้น คนโบราณจึงใช้น้ำมะขามเปียก เป็นน้ำกระสายยา เวลาปั้นเพชรสังฆาตเป็นลูกกลอน หรือปัจจุบันจะทำเป็นแคปซูล เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว
แต่สรรพคุณของเพชรสังฆาตไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ในหลายพื้นที่ยังใช้ในสรรพคุณบำรุงกระดูกอีกด้วย
******** คนอินเดียเรียกชื่อเจ้าต้นเพชรสังฆาตว่า Asthisringhala แปลว่า สมานกระดูก
ซึ่งวิธีใช้นั้นเค้าจะนำเพชรสังฆาตไปผสมแป้งและสมุนไพรบางชนิด ทำเป็นยาพอกในรายที่กระดูกหักหรือกระดูกแตก
แต่ก็มีบางตำรับใช้กิน รักษาอาการปวดหลัง (Rheumatic Back Pain)
หมอยาแถวราชบุรีเรียกต้นเพชรสังฆาตว่า ต้นต่อกระดูก โดยจะใช้เถาเพชรสังฆาตที่ไม่แก่ ไม่อ่อนเกินไปตำผสมกับเหล้า ทาบริเวณที่กระดูกหัก
ในตำรายาไทยกล่าวว่าราก เป็นยาพอกรักษาโรคกระดูก เถาลำต้น แก้กระดูกหัก
******** ปัจจุบันได้มีการศึกษาวิจัยประโยชน์ของเพชรสังฆาตต่อกระดูกอย่างต่อเนื่อง โดยพบว่า สารสกัดของเพชรสังฆาตเพิ่มความหนาและความแข็งแรงของกระดูกในหนู กระตุ้นกระบวนการสร้างเซลล์สร้างเนื้อกระดูก (osteoblast) ในหลอดทดลองและรักษาสภาวะกระดูกพรุนที่ถูกเหนี่ยวนำหรือเกิดจากการตัดเอารังไข่ออกไป ในหนูทดลองมีประสิทธิภาพที่คล้ายคลึงกับยาต้านภาวะกระดูกพรุนในปัจจุบันซึ่งก็คือ Raloxifen ทั้งยังเพิ่มความหนาของกระดูกส่วน cortical และ trabecular
ดังนั้นเพชรสังฆาตจึงเหมาะที่จะนำไปใช้ในการแพทย์ทางเลือกสำหรับป้องกันหรือรักษาโรคกระดูกพรุน นอกจากนี้ยังมีการศึกษาวิจัยพบว่า เพชรสังฆาตมีฤทธิ์แก้ปวดแก้อักเสบได้ดีมาก
******** ปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์เพชรสังฆาตจำหน่ายอยู่ในตลาดโลกรวมทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา ในการเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับซ่อมแซมกระดูก ข้อต่อ และเนื้อเยื่อ รวมทั้งทำให้ข้อและกระดูกแข็งแรง และช่วยสร้างมวลกล้ามเนื้อ
โดยระบุว่าเพชรสังฆาตมีความปลอดภัยสูง ไม่มีผลข้างเคียงสามารถรับประทานร่วมกับยาตัวอื่นได้
******** สำหรับการกินเพชรสังฆาตในสรรพคุณบำรุงกระดูกนั้น สามารถนำเพชรสังฆาตไปต้มกินเป็นน้ำสมุนไพรได้ เพราะความร้อนจะทำให้เพชรสังฆาตไม่ระคายคอ และยังช่วยในการแก้ร้อนในกระหายน้ำได้ดี โดยมีวิธีการทำงายๆ ดังนี้
น้ำเพชรสังฆาต
เพชรสังฆาตสด 1 กำมือ
น้ำ 1 ลิตร
น้ำผึ้ง หรือ น้ำตาลกรวด
วิธีทำ
******** นำเพชรสังฆาตมาล้างให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง เด็ดหนวดออก ขดเป็นม้วนขนาด 1 กำมือ
******** นำน้ำขึ้นตั้งไฟ ใส่เพชรสังฆาตลงไปต้ม เป็นเวลาประมาณ 1 - 1.30 ชั่วโมง หรือจนกว่าสีจะออกเขียวอ่อน สามารถปรุงรสด้วยน้ำผึ้งหรือน้ำตาลตามชอบ ยกลงพักไว้
**********************************************
ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร
**********************************************
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น