การโฆษณาเป็นวิธีของบริษัทใหญ่เท่านั้นหรอกหรือ ผิดแล้ว การโฆษณามิใช่เพียงการเสียเงินหลายหมื่นต่อวินาที แต่เป็นวิธีการที่ใครๆ ก็ทำได้ บริษัทเล็กๆ ก็ต้องโฆษณา บริษัทใหม่ๆ ยิ่งต้องโฆษณา ไม่เช่นนั้นก็จะถือกำเนิดอย่างไม่มีใครรู้เห็น ดำรงอยู่อย่างไม่มีใครรู้เห็น และเลือนหายไปอย่างไม่มีใครรู้เห็น ธุรกิจขนาดเล็กควรกล้าที่จะบุกเบิกทางมุ่งไปข้างหน้า การคิดหวังแต่ว่าบริการให้ดีให้ลูกค้าช่วยโฆษณาปากต่อปาก ช่วยดึงลูกค้าอื่นมาให้ เป็นเสมือนการหาสมบัติพระศุลีโดยไม่มีแผนที่ ธุรกิจขนาดเล็กเช่นนี้จึงอาจมีทางรอดได้เพียงทางเดียว คือ เมื่อคู่แข่งก็ไม่มีการโฆษณาสินค้าเช่นกัน
ในปัจจุบันนี้ที่การแข่งขันดุเดือดมาก ก็ยังมีบริษัทเล็กๆ บางบริษัทที่ไม่โฆษณาสินค้าตนเอง ไม่เป็นฝ่ายรุกเข้าหาลูกค้า ซ้ำยังกลับย้อนถามลูกค้าว่า "ใครแนะนำมา" หากลูกค้าบอกไม่ถูกว่าใครแนะนำมา บางทีก็อาจไม่แจ้งราคาหรือไม่ก็โก่งราคาจนคนกลัว ในสังคมที่ข่าวสารแพร่หลายได้รวดเร็วเช่นนี้ สินค้าบางชนิดโดยเฉพาะพวกวัตถุดิบทางอุตสาหกรรม อาจจำเป็นต้องถามผู้รู้ว่าจะหาซื้อได้ที่ไหน ในกรณีเช่นนี้จะมีก็แต่บริษัทที่มีดีอยู่แล้วจึงมีโอกาสอยู่รอดได้
หากสินค้าในวงการมีการโฆษณา แน่นอนเราก็ต้องโฆษณาด้วย ในขณะที่คนอื่นไม่โฆษณา แต่เรากลับโฆษณา ผลที่ได้นอกจากจะได้ลูกค้ากับการขายที่เพิ่มขึ้นแล้ว ก็ไม่เห็นว่าจะมีผลเสียอย่างไร คนอื่นจะคิดจะว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องของเขา
พ่อค้าต้องเข้าใจถึงหลักการเลือกโฆษณา กิจการเล็กๆ ของพ่อค้ามีลักษณะพิเศษทางการตลาด คือ เป็นสินค้าที่ใช้เฉพาะพื้นที่ และเป็นการขายตรง หากคุณเปิดร้านอาหารสักร้าน แล้วโฆษณาทางโทรทัศน์ จะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงเป็นการฟุ่มเฟือยและไม่เกิดประโยชน์ แต่ถ้าไปโฆษณาที่โรงหนังใกล้ร้าน เดือนหนึ่งเสียไม่กี่ร้อยบาทจะได้ผลโดยตรงกว่ามาก ในบางวงการการเสียค่าโฆษณาแบบแยกวันละไม่กี่สิบบาท นับว่าคุ้มมาก การแยกโฆษณาเป็นทางเลือกที่ถูกที่สุด ใบประกาศ ใบปลิว โบรชัวร์ทางไปรษณีย์ ล้วนเป็นสื่อราคาถูกที่ได้ผล
ในวงการหนังสือพิมพ์ปัจจุบัน มีทั้งการลงข่าวให้ฟรีและเสียเงิน หากสินค้าของคุณมีลักษณะพิเศษ คุณก็สามารถเป็นฝ่ายติดต่อหรือเขียนส่งไป คุณอาจได้ลงฟรี สำหรับคุณแล้วมันเป็นการโฆษณา แต่สำหรับหนังสือพิมพ์แล้วมันคือข่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น