..........ไม่ใช่แต่ไทยเท่านั้นที่ชอบสมน้ำหน้ากัน ฝรั่งก็มีถ้อยคำสำนวนที่มีความหมายในทำนองเดียวกันอยู่หลายอย่าง
คำแรกที่ควรพูดถึงก็คือ "It serves him right."
ซึ่งหมายความว่า ถ้าเขาทำอะไรไม่ดีไว้ ก็สมควรแล้วที่ได้รับผลร้ายจากการกระทำนั้น
คำกริยา to serve ในที่นี้หมายถึง "ลงโทษ"
ส่วนคำ right ในที่นี้เป็นกริยาวิเศษณ์ แปลว่า อย่างถูกต้อง หรืออย่างเหมาะสม
สำนวนนี้อาจใช้กับบุคคลที่สามหรือเป็นคำพูดใส่หน้าใครคนหนึ่งก็ได้ เช่น It serves you right. "สมน้ำหน้าแก"
..........มีคำภาษาอังกฤษคำหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะเป็นคำกระทัดรัดกินความมาก คือ deserts
คำนี้แปลว่า สิ่งที่สมควรได้รับ เช่น ถ้าทำดีก็ควรได้รับผลตอบแทนดี ถ้าทำชั่วก็ควรได้รับผลร้ายของการกระทำของตน
จึงมีถ้อยคำสำนวนที่ใช้คำนี้อยู่หลายคำ
เช่น He was punished according to his deserts. เขาถุกลงโทษอย่างสาสม
He will be rewarded according to her deserts. เขาจะได้รับรางวัลอย่างสาสม
He will get his deserts. หรือ He will meet with his deserts. เขาจะได้รับผลอย่างที่เขาควรได้รับ (อาจเป็นในทางดีหรือร้ายก็ได้)
ทีนี้ถ้าพูดว่า He got his deserts. ก็ตรงกับคำไทยที่ว่า สมน้ำหน้าเขาแล้ว
..........ยังมีสำนวน He is asking for it. ซึ่งตรงกับที่ไทยว่า "แกว่งเท้าหาเสี้ยน"
คือทำสิ่งที่ไม่ควรทำ หรือไม่ใช่ธุระของตัว หรือที่ตัวไม่มีความรู้ความสามารถพอที่จะทำ หรือที่เห็นอยู่อย่างแจ่มแจ้งว่า อุปสรรคหรืออันตรายรออยู่
คำ it ในที่นี้ก็หมายถึง ผลร้ายที่เกิดขึ้น
อันที่จริงสำนวนในภาษาอังกฤษที่หมายถึง แส่หาเรื่อง หรือ หาความเดือดร้อนให้ตัวเองนั้นมีอยู่มาก
เช่น to ask for trouble, to invite trouble, to court disaster, to stick out one's neck.
..........นอกจากนั้นยังมีสำนวนสแลง He had it coming to him.
ซึ่งมักใช้ในการพูดถึงคนที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะแส่หาเรื่อง และเป็นคำพูดที่มีหางเสียงไปในทางสมน้ำหน้าอยู่ด้วย
สำนวนนี้ถ้าจะแปลความหมายตามตัวอักษรก็คือ เขาควรจะได้รับความเดือดร้อน เพราะทำเช่นนั้นมานานแล้ว หรือตั้งแต่ต้นแล้ว เพราะการกระทำเช่นนั้นก็เป็นที่แน่นอนว่าจะได้รับความเดือดร้อน
..........เกี่ยวกับการ "สมน้ำหน้า" ในกรณีที่เป็นความผิดของบุคคลนั้นเอง ทำความเดือดร้อนให้แก่ตัวเอง
ในภาษาอังกฤษมีสำนวนว่า He may thank himself for that.
หรือ He has only himself to thank for that. ซึ่งเทียบกับที่ไทยว่า "สมน้ำหน้า จะไปโทษใคร ต้องโทษตัวเอง"
คำกริยา to thank ในที่นี้ใช้อย่างประชด มีความหมายเท่ากับ to blame คือตำหนิ หรือ โทษ
อนึ่ง เคราะห์กรรม หรือความเดือดร้อนที่แส่หาให้ตัวเอง อย่างนี้ในภาษาอังกฤษเรียกว่า self-induced trouble หรือ self-induced disaster
..........ในกรณีที่คนชั่วร้ายหรือผู้ที่กระทำผิดได้รับโทษทัณฑ์ หรือเคราะห์กรรมอย่างไม่ได้นึกได้ฝัน
คือใครต่อใครพากันคิดว่า ผู้กระทำผิดคงรอดตัวไปได้แน่นอน ทิ้งให้ผู้ที่ถูกทำร้ายต้องรับทุกข์ต่อไป
แต่จู่ๆ ก็ปรากฏว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นแก่เขา อย่างนี้ฝรั่งมักปรารภหรือวิจารณ์ว่า "It's poetic justice."
ซึ่งอาจทำให้นักศึกษาภาษาอังกฤษเป็นจำนวนมากงงว่าหมายความว่าอะไร และทำไมจึงมีคำ poetic เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
คำอธิบายก็คือ วิธีการแต่งเรื่องให้ลงเอยในทำนองนี้เป็นที่แพร่หลายในวรรณคดีฝรั่งในสมัยโบราณ
ซึ่งพระเอกนางเอกมักเป็นคนดี และผู้ร้ายก็คือผู้ร้าย 100% หรือสมบูรณ์แบบ
เมื่อเป็นเช่นนี้ พระเอกนางเอกก็ต้องสุขสบาย และผู้ร้ายก็ต้องตายตอนจบ
เพราะถ้าขืนแต่งในทำนองตรงกันข้าม ก็จะเป็นการขัดกับความปรารถนาของผู้อ่านผู้ฟัง
วิธีการเช่นนี้ก็ดูจะสอดคล้องกับความรู้สึกของผู้อ่านผู้ชมคนไทยเหมือนกัน
ทีนี้ความหมายของคำว่า poetic justice ถ้าจะแปลตามตัวอักษรก็คือ "ความยุติธรรมทางกาพย์กลอน"
คือ ไม่ใช่ความยุติธรรมที่มีอยู่จริงๆ ในชีวิต แต่บางทีก็เกิดขึ้นได้และเกิดขึ้นบ่อยๆ เสียด้วยในชีวิตจริงๆ
ซึ่งเมื่อใดเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นฝรั่งก็มักปรารภหรือวิจารณ์ว่า "It's poetic justice."
คล้ายๆ กับพลอยอนุโมทนาสาธุไปว่า อย่างนี้ดีแล้ว ชอบแล้ว เป็นการสมน้ำหน้าคนชั่วหรือคนผิดไปในตัวด้วย
..........ยังมีอีกกรณีหนึ่งซึ่งไทยหรือฝรั่งก็มักจะ "สมน้ำหน้า"
คือกรณีที่คิดร้ายต่อคนอื่นแต่ผลร้ายกลับเกิดขึ้นกับตนเอง อย่างที่เรียกว่า ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
อย่างนี้ฝรั่งเรียกว่า The evil he did recoiled on himself.
หรือ His meanness recoiled upon him.
ถ้าไม่ใช้คำ to recoil จะใช้ว่า to rebound ก็ได้เหมือนกัน กริยาทั้ง 2 ตัวนี้แปลว่าสะท้อนกลับ
อนึ่งในเรื่องให้ทุกข์แก่ท่านทุกข์นั้นถึงตัวนี้ ในภาษาอังกฤษมีคำพังเพยอยู่ว่า Curses come home to roost.
หมายความว่า คำแช่งด่าผู้อื่นนั้นมักกลับเข้าหาตัวเอง คำว่า come home to roost นั้น ถ้าแปลตามตัวก็คือ กลับมานอนบ้าน
คำว่า roost นั้นหมายถึง คอนที่นกจับเวลานอน
ยังมีสำนวน hoist with his own petard ซึ่งเป็นคำพังเพยหมายถึงคิดทำร้ายผู้อื่น แต่ตนเองได้รับผลร้าย
เทียบกับที่ไทยว่าให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
คำว่า petard นั้นหมายถึงลูกระเบิดแบบโบราณ ถ้าจะแปลคำว่า hoist with his own petard ตามตัวก็คือ ถูกลูกระเบิดของตัวเองเข้า
..........พูดถึงอุบายหรือสิ่งประดิษฐ์อะไรก็ตามที่ส่งผลสะท้อนทำให้ผู้ที่คิดประดิษฐ์นั้นเองได้รับผลร้าย
ก็นึกถึงคำว่า Frankenstein monster ขึ้นได้ คำนี้มาจากนวนิยายที่ Mary Shelley เขียนขึ้นในปี ค.ศ.1818
เล่าถึงนักประดิษฐ์ผู้หนึ่ง ชื่อ Baron Frankenstein ซึ่งประดิษฐ์หุ่นยนต์ยักษ์ หรือ monster ขึ้นตัวหนึ่ง
และใช้ให้ไปทำอะไรต่ออะไรตามแต่จะบังคับแต่ภายหลังบังคับไว้ไม่อยู่ หันกลับเข้าทำร้าย Frankenstein เอง
จึงเกิดคำว่า Frankenstein monster ซึ่งใช้ๆ ไปหดลงเหลือ Frankenstein คำเดียว
หมายถึงสิ่งที่คิดขึ้นแต่กลับทำร้ายผู้คิด เช่น His great idea turned out to be a Frankenstein monster.
..........ในเรื่องต้องรับผลจากการกระทำของตนเองนี้ ในภาษาอังกฤษมีคำพังเพยอยู่หลายข้อ
ซึ่งก็ไม่เชิงเป็นการพูดว่า สมน้ำหน้า แต่เป็นการให้สติว่า "ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว" จะไปโทษใครไม่ได้
เช่น คำพังเพยว่า As you make your bed so you must lie on it. แปลตามตัวว่า ปูที่นอนไว้เอง ก็ต้องนอนของตัวสิ
หมายความว่า ทำดีทำชั่วไว้อย่างไรก็ต้องรับผลการกระทำของตัว จะให้คนอื่นมารับแทนไม่ได้
อีกคำหนึ่ง คือ You must reap what you have sown. แปลตามตัวว่า หว่านพืชอย่างใดไว้ ก็ได้พืชอย่างนั้น
ก็คือ ทำกรรมใดไว้ก็ได้กรรมนั้นตอบแทน หรือทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่วนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น