วันพฤหัสบดีที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ระเบียบการทั่วไป รับสมัครบุคคลเพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนการไปรษณีย์

ระเบียบการทั่วไป รับสมัครบุคคลเพื่อเข้าศึกษาในโรงเรียนการไปรษณีย์
          โรงเรียนการไปรษณีย์เป็นสถาบันการศึกษาสังกัดฝ่ายพัฒนาบุคลากร บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ซึ่งมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจในสังกัดกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร มีหน้าที่ผลิตพนักงานระดับปฏิบัติการที่มีคุณภาพ มีความรู้ความสามารถด้านการปฏิบัติงานไปรษณีย์ให้กับบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
วิสัยทัศน์ของโรงเรียนการไปรษณีย์
          เป็นสถาบันการศึกษาด้านไปรษณีย์ที่ผลิตบุคลากรที่มีสมรรถนะตามความต้องการของ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
สมรรถนะของนักเรียนโรงเรียนการไปรษณีย์
          ซื่อสัตย์ สามัคคี มีวินัย และสำนึกในการให้บริการที่ดี
ระยะเวลาการศึกษา
          ระยะเวลาการศึกษา 1 ปี แบ่งเป็น
          - ภาควิชาการ (8 เดือน) ได้แก่ ภาควิชาทั่วไป ภาควิชาภาษาอังกฤษ ภาควิชากฎหมาย ภาควิชาการจัดการ ภาควิชาคอมพิวเตอร์พื้นฐาน ภาควิชาการไปรษณีย์และบริการการเงิน ภาควิชาการเงินและบัญชี ภาควิชาการตลาด
          - ภาคปฏิบัติ (4 เดือน) ฝึกปฏิบัติระบบงานไปรษณีย์ ณ ที่ทำการไปรษณีย์รับฝาก และที่ทำการไปรษณีย์ศูนย์กลางจ่าย
คุณวุฒิการศึกษา
          สำเร็จหลักสูตรมัธยมศึกษาตอนปลายสายสามัญ (ม.6)
          เกรดเฉลี่ยสะสมตลอดหลักสูตรไม่ต่ำกว่า 2.50
คุณสมบัติของผู้สมัคร
          1. สัญชาติไทย
          2. เพศหญิง โสด
              เพศชาย ผ่านการเรียนหลักสูตรนักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 3 หรือผ่านการตรวจเลือกทหารกองเกินเข้าเป็นทหารประจำการแล้ว
          3. มีอายุไม่ต่ำกว่า 17 ปี และไม่เกิน 25 ปีบริบูรณ์นับถึงวันปิดรับสมัคร
          4. ไม่เคยรับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่โทษสำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ
          5. เลื่อมใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญไทย
          6. มีร่างกายแข็งแรง ไม่เป็นผู้มีร่างกายทุพพลภาพ ไร้ความสามารถหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบหรือเป็นโรคต่อไปนี้
                6.1 โรคเรื้อน
                6.2 วัณโรคในระยะอันตราย
                6.3 โรคเท้าช้างในระยะปรากฎอาการเป็นที่รังเกียจแก่สังคม
                6.4 โรคยาเสพติดให้โทษอย่างร้ายแรง
          7. ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างพักราชการ พักงาน หรือถูกสั่งให้ออกจากราชการ ออกจากงานไว้ก่อนหรือต้องหาคดีอาญาอันมิใช่ความผิดลหุโทษหรือความผิดอันได้กระทำโดยประมาท
          8. ไม่เป็นผู้บกพร่องในศีลธรรมอันดี
          9. ไม่เป็นผู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว
         10. ไม่เป็นผู้เคยลงโทษให้ออก ปลดออก ไล่ออกเพราะกระทำผิดวินัยจากหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจหรือบริษัท
         11. ไม่เคยถูกลงโทษให้ออก ไล่ออกจากสถานศึกษาใด ๆ
การสมัครสอบ
          - ณ ที่ทำการไปรษณีย์ทุกแห่ง (ในเวลาทำการ)
          - ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่เว็บไซต์ www.thailandpost.co.th โดยในวันสมัครผู้สมัครต้องเตรียมค่าสมัครสอบ / หลักฐานประกอบ ดังนี้
              1. ใบสมัครสอบคัดเลือก
              2. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน จำนวน 1 ชุด (รับรองสำเนาถูกต้อง)
              3. สำเนาระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ระบุเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 2.50 จำนวน 1 ชุด (นำใบระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ.1) ตัวจริงมาแสดงด้วย)
              4. รูปถ่ายหน้าตรง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาว ไม่สวมหมวก ไม่ใส่แว่นตาดำ ขนาด 1.5 นิ้ว ถ่ายครั้งเดียวกันไม่เกิน 3 เดือน จำนวน 3 รูป
              5. ค่าธรรมเนียมสมัครสอบ จำนวน 300 บาท (บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด จะไม่คืนเงินค่าสมัครสอบทุกกรณี)
          ประกาศรายชื่อผู้มีสิทธิสอบ เลขประจำตัวสอบ และผังที่นั่งสอบ ทางเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th
กำหนดวัน เวลา และสถานที่สอบข้อเขียน
          ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี ระหว่างเวลา 08.00 น.-17.00 น.
การสอบคัดเลือก
          1. วิชาที่สอบคัดเลือก (ข้อเขียน)
              1.1 คณิตศาสตร์
              1.2 ภาษาไทย
              1.3 ภาษาอังกฤษ
              1.4 คอมพิวเตอร์เบื้องต้น
              1.5 ทดสอบทัศนคติ
              ผู้ที่ผ่านการสอบข้อเขียนจึงจะมีสิทธิเข้าสอบสัมภาษณ์
          2. การเตรียมตัวสอบ
              2.1 ใช้ปากกาลูกลื่น หมึกสีน้ำเงินหรือดำ ในการสอบ
              2.2 ให้ไปถึงสถานที่ก่อนเวลาสอบ 1 ชั่วโมง เพื่อตรวจสอบห้องสอบและเลขที่นั่งสอบ รวมทั้งรอฟังคำชี้แจงจากกรรมการคุมสอบ
              2.3 หากเข้าห้องสอบสายเกินกว่า 15 นาทีนับจากการสอบวิชาแรกในภาคเช้า / บ่าย จะไม่มีสิทธิเข้าห้องสอบ
              2.4 ผู้เข้าสอบต้องนำบัตรประจำตัวประชาชนตัวจริง และใบสมัครสำหรับผู้สมัครสอบส่วนที่ 3 มาด้วยทุกครั้งที่เข้าสอบ หากหลักฐานใบสมัครสำหรับผู้สมัครสอบส่วนที่ 3 สูญหายให้แจ้งความ ณ สถานีตำรวจและนำใบแจ้งความมาติดต่อขอใบแทนได้ ดังนี้
                    2.4.1 ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่รับสมัครก่อนวันสอบอย่างน้อย 10 วัน
                    2.4.2 ณ โรงเรียนการไปรษณีย์ ถนนแจ้งวัฒนะ หลักสี่ กรุงเทพมหานคร ก่อนวันสอบอย่างน้อย 1 วัน มิฉะนั้นจะไม่มีสิทธิเข้าห้องสอบ
              2.5 ผู้เข้าสอบจะต้องแต่งเครื่องแบบนักเรียน นักศึกษาหรือแต่งกายสุภาพ ผู้ที่สวมรองเท้าแตะ ใส่เสื้อยืดคอกลม ปล่อยชายเสื้อนอกกางเกง จะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าห้องสอบ
          3. การสอบ
              3.1 ให้ผู้สมัครต้องไปถึงสถานที่สอบภาคเช้าก่อนเวลา 08.00 น. และภาคบ่ายก่อนเวลา 13.00 น.
              3.2 เมื่อเข้าห้องสอบแล้วให้นั่งที่โต๊ะตามหมายเลขที่กำหนด
              3.3 วางบัตรประจำตัวประชาชน ใบสมัครสำหรับผู้สมัครสอบไว้ที่มุมโต๊ะด้านขวา
              3.4 รับฟังคำชี้แจงจากกรรมการคุมสอบ
              3.5 หากมีข้อสงสัยใด ๆ ขอให้ยกมือเพื่อสอบถามกรรมการคุมสอบ
              3.6 ห้ามออกจากห้องสอบก่อนเวลา 11.30 น. (ภาคเช้า) และ 15.30 น. (ภาคบ่าย) ยกเว้นกรรมการคุมสอบจะแจ้งเป็นอย่างอื่น
              3.7 ห้ามนำเอกสารและอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนอุปกรณ์สื่อสารทุกชนิด นอกจากปากกาที่กำหนดไว้ในข้อ 2.1 เข้าห้องสอบ โรงเรียนจะแจกกระดาษคำตอบให้และห้ามฉีกกระดาษนั้นออกจากกัน ไม่อนุญาตให้ใช้กระดาษอื่นใดทั้งสิ้นในการทดหรือร่าง
              3.8 ห้ามเขียนเลขประจำตัวสอบและห้ามทำข้อสอบจนกว่ากรรมการคุมสอบจะแจ้งให้เริ่มได้
              3.9 ห้ามขีดเขียนหรือทำเครื่องหมายใด ๆ นอกจากที่กำหนดไว้ลงในกระดาษคำตอบ
          เมื่อสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนการไปรษณีย์และเข้าปฏิบัติงานเป็นพนักงานของบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ไม่ครบ 3 ปีบริบูรณ์หรือต้องออกจากบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ก่อนครบกำหนดเวลาดังกล่าวไม่ว่ากรณีใด ๆ (ยกเว้นกรณีเสียชีวิต) ผู้ค้ำประกันจะต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นจำนวนเงินปีละ 50,000 บาท

วันอาทิตย์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร (Hemorrhoids)

ริดสีดวงทวาร เป็นเส้นเลือดดำขอดที่เกิดขึ้นในบริเวณทวารหนัก ซึ่งอาจเป็นพร้อมกันหลายที่
ถ้าเกิดจากเล้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวหนังตรงปากทวารหนัก เรียกว่า ริดสีดวงภายนอก (External hemorrhoid) ซึ่งอาจมองเห็นจากภายนอกได้
ถ้าเกิดจากเส้นเลือดที่อยู่ลึกเข้าไปเรียกว่า ริดสีดวงภายใน (Internal hemorrhoid) ซึ่งจะตรวจพบ เมื่อใช้เครื่องมือส่องทวารหนัก

สาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด มักพบในคนที่มีภาวะกดดันต่อเส้นเลือดดำในบริเวณนี้นาน ๆ
เช่น อาการท้องผูกเรื้อรัง (ต้องเบ่งถ่ายนาน ๆ ), ไอเรื้อรัง, การตั้งครรภ์, น้ำหนักมาก (อ้วน), ตับแข็ง, มีก้อนเนื้องอกในท้อง, ต่อมลูกหมากโต, มะเร็งของลำไส้ เป็นต้น

เมื่อถ่ายอุจจาระ จะทำให้ผนังของเส้นเลือดแตกทำให้มีเลือดไหลได้
เป็นโรคที่พบได้บ่อย และพบเป็นสาเหตุอันดับแรก ๆ ของอาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือดสด
โดยทั่วไปจะไม่ค่อยมีอาการรุนแรงหรืออันตราย แต่อาจเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง น่ารำคาญหรือทำให้วิตกกังวล โดยมากมักจะมีอาการเวลาท้องผูกหรือท้องเดินบ่อยครั้ง

อาการ
ส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก เป็นเลือดแดงสด เกิดขึ้นขณะถ่ายอุจจาระ อาจสังเกตมีเลือดเปื้อนกระดาษชำระหรือปนมากับอุจจาระ หรือมีเลือดไหลออกเป็นหยด โดยไม่รู้สึกเจ็บปวดแต่อย่างไร
บางคนอาจรู้สึกเจ็บที่ทวารหนัก และถ่ายอุจจาระลำบาก หรืออาจมีอาการคันก้น
ถ้าริดสีดวงอักเสบ หรือหลุดออกมาข้างนอก อาจทำให้รู้สึกปวดรุนแรง จนถึงกับนั่งยืนหรือเดินไม่สะดวกและคลำได้ก้อนเนื้อนุ่ม ๆ สีคล้ำ ๆ ที่ปากทวารหนัก
ถ้ามีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง อาจมีอาการซีดได้

อาการแทรกซ้อน
อาจทำให้มีภาวะโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก

การรักษา
1. ระวังอย่าให้ท้องผูก ควรดื่มน้ำมาก ๆ และกินผักผลไม้ให้มาก ๆ
    ถ้ายังท้องผูก ให้กินยาระบาย เช่น ยาระบายแมกนีเซีย, ดีเกลือ อย่ายืนนาน ๆ หรือนั่งเบ่งถ่ายนาน ๆ
2. ถ้าปวดมากให้กินยาแก้ปวด, นั่งแช่ในน้ำอุ่นผสมด่างทับทิมวันละ 2-3 ครั้ง ๆ ละ 15-30 นาที
    และใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร เช่น อะนูซอล (Anusal), เชอริพร็อกต์ (Scheriproct), พร็อกโตซีดิล (Proctosedyl) เหน็บวันละ 2-3 ครั้ง (เช้า ก่อนนอน และหลังถ่ายอุจจาระ) จนอาการบรรเทา ปกติใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน
3. ถ้าซีดให้ เฟอร์รัสซัลเฟต วันละ 3 ครั้ง ๆ ละ 1 เม็ด
4. ถ้าหัวริดสีดวงหลุดออกมาข้างนอก ให้ใส่ถุงมือใช้ปลายนิ้วชุบสบู่ให้หล่อลื่น แล้วดันหัวกลับเข้าไป ถ้าไม่ได้ผล ควรแนะนำไปโรงพยาบาล
5. ถ้ามีเลือดออกนานกว่า 1 สัปดาห์ หรือเป็น ๆ หาย ๆ บ่อยหรือสงสัยมีโรคอื่นร่วมด้วยหรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี ควรแนะนำไปโรงพยาบาล อาจต้องใช้เครื่องส่องตรวจทวารหนัก (proctoscope) ถ้าหากสงสัยเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ อาจต้องเอกซเรย์ลำไส้ใหญ่ด้วยการสวนแป้งแบเรียม (Barium enema) หรือใช้เครื่องส่องตรวจลำไส้ใหญ่
ถ้าเป็นริดสีดวงทวาร โดยไม่มีสาเหตุที่ร้ายแรงก็มักจะให้การรักษาดังได้กล่าวข้างต้น
ถ้าเป็นมากอาจรักษาด้วยการฉีดยาเข้าที่หัวริดสีดวงให้ฝ่อไป วิธีนี้สะดวก ปลอดภัย ไม่มีความเจ็บปวด มักจะฉีดสัปดาห์ละครั้ง ประมาณ 3-5 ครั้ง ช่วยให้หายขาดได้ 60%  ส่วนอีก 40% อาจกำเริบได้ใหม่
ถ้าเป็นมากหรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจต้องผ่าตัด

ข้อแนะนำ
1. ริดสีดวงทวาร โดยตัวมันเอง ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรง (มีเพียงส่วนน้อยที่ต้องรักษาด้วยการผ่าตัด) แต่อาจเป็นเรื้อรังได้ ถึงแม้เคยผ่าตัดรักษามาแล้ว ก็อาจเกิดริดสีดวงหัวใหม่ ทำให้มีเลือดออกได้อีก
ผู้ที่เป็นโรคนี้ ควรระวังอย่าให้ท้องผูกหรือท้องเดินบ่อย ๆ
2. มะเร็งของลำไส้ใหญ่ ก็อาจทำให้มีอาการของริดสีดวงทวารได้ ดังนั้น ถ้าพบว่ามีเลือดออกนานกว่า 1 สัปดาห์ หรือพบในคนอายุมากกว่า 40 ปี ควรแนะนำไปตรวจที่โรงพยาบาลให้แน่ใจ
3. อาการถ่ายอุจจาระเป็นเลือด อาจมีสาเหตุได้หลายอย่าง